Politics

‘เสรี’ ยันขวางแก้ ม.112 ลั่น ส.ว. โหวตหนุน ‘พิธา’ นั่งนายกฯ ไม่เกิน 5 เสียง

“เสรี” ยันขวางแก้ ม.112 ลั่น “ส.ว.” โหวตหนุน “พิธา” นั่งนายกฯ ไม่เกิน 5 เสียง ด้าน “สมชาย” ขอให้มั่นใจในดุลยพินิจ และวุฒิภาวะของส.ว. ยึด! ความมั่นคงของประเทศ-ความสงบสุข

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุขณะนี้มีเสียงสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เพียงพอที่จะทำให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีว่า ถ้ามากพอก็เป็นไปเลย แต่ตามที่ปรากฎก็ยังไม่เห็นมีใครที่แสดงออกมาชัดเจนนอกจาก 17 คนที่มีรายชื่อปรากฎออกมา โดยที่หลายคนใน 17 คน ออกมาปฏิเสธว่าถูกเอาชื่อไปใส่โดยไม่ได้ไปเสนอแนวทางแบบนั้น

ม.112

“หลายท่านบอกว่าถ้าได้เสียงข้างมากจะเลือกให้ แต่ทุกคนพูดตรงกันว่าถ้าได้เสียงข้างมากแล้วยังจะแก้มาตรา 112 เขาก็ไม่โหวตให้ ฉะนั้น จะยึดแนวทางการใช้เสียงชนะเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องดูความเหมาะสมด้วย” นายเสรี กล่าว

นายเสรี กล่าวอีกว่า ถ้ายังยืนยันว่าจะแก้ ม.112 ผมยืนยันในหลักการสำคัญตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ก็พูดเหมือนเดิม ผมไม่เลือกแน่นอน ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคการเมืองอื่นที่สามารถเสนอชื่อได้ ก็ต้องดูว่าเขามีปัญหาเรื่องแก้ ม.112 หรือไม่ คุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ มีนโยบายที่หลอกลวงประชาชนอะไรบ้างหรือไม่ พฤติกรรมที่ผ่านมา ผลงานที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ทั้งหมดเป็นเหตุผลที่นำมาตัดสินได้ทั้งนั้น

เมื่อถามว่า หากเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีมาจากพรรคเพื่อไทย จะทำให้สบายใจขึ้นในการโหวตให้เป็นนายกฯ หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องสบายใจหรือไม่สบายใจ แต่เป็นเรื่องที่ ส.ส. จะไปตกลงกันให้สบายใจ ไปจัดทัพรวบรวมเสียงกันมา เมื่อถึงตอนนั้น ส.ว. จะพิจารณาตาม ม.159 คือเลือกบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติขัดต่อรัฐธรรมนูญ

ม.112
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์

เมื่อถามย้ำว่า หากแนวโน้มเป็นแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย จะมีภาษีมากกว่านายพิธาหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ต้องดูว่าเป็นใคร เพราะพรรคเพื่อไทยมี 3 ชื่อ ก็ต้องดูว่าเสนอใคร ส่วนพรรคภูมิใจไทยก็มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คงยังตอบไม่ได้ ต้องพิจารณาก่อนว่าบุคคลนั้นมีความเหมาะสมหรือไม่ รวมถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็อยู่ในเกณฑ์เดียวกัน

เมื่อถามว่า ประเมินว่านายพิธาจะได้เสียงพอจะเป็นนายกฯ หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า เชื่อว่าไม่พอ จะไปเอาเสียงที่ไหน ผมดูจากการแสดงออกที่ชัดเจนของ ส.ว. สนับสนุนนายพิธาไม่เกิน 5 เสียง ส่วนคนอื่นที่ไม่ได้พูด ผมพยายามบอกตลอดว่าใครสนับสนุนให้บอกมาเลย ส่วนท่านที่บอกว่ามีเสียงสนับสนุนก็กรุณาบอกมา เขาจะได้ไม่ปฏิเสธว่าสนับสนุนหรือไม่ เอาให้ชัดเจนไปเลยจะได้เป็นประโยชน์ แต่มาบอกว่ามีคนสนับสนุนแต่ไม่รู้ว่าใคร

เมื่อถามว่า จากการพูดคุยกันของ ส.ว. เรื่องการโหวตนายกฯ เป็นการตัดสินใจด้วยตัวเองหรือมีใบสั่ง นายเสรี กล่าวว่า เป็นใบสั่งจากประชาชน เพราะประชาชนเลือกมาแค่ 14 ล้านเสียง ไม่ได้เลือกมาทั้งหมด

เมื่อถามย้ำว่าประเด็นของนายพิธายังเป็นปัญหาใช่หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า แน่นอน เป็นปัญหา และถือเป็นเงื่อนไขต่อการโหวตนายกฯ การที่ได้คะแนนเป็นอันดับ 1 มา 14 ล้านเสียง แต่ไม่ใช่คะแนนเสียงส่วนใหญ่ของคนทั้งประเทศ แล้วชอบพูดกันบ่อยว่าทำไมไม่ทำตามเสียงประชาชน ต้องทำความเข้าใจว่าเสียงที่ประชาชนมีสิทธิ์ลงคะแนน 50 ล้านคน ใช้สิทธิ์ 40 ล้านคน เลือกพรรคก้าวไกล 14 ล้านเสียง แสดงว่า 14 ล้านเสียง เป็นเสียงข้างน้อย การที่เสียงข้างมากไม่เลือกจึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญว่าเหตุใดถึงไม่เลือก แสดงว่าเราไม่ได้ไปขัดแย้งอะไรกับ 14 ล้านเสียง แต่เราทำตามเสียงข้างมาก” นายเสรี กล่าว

ม.112
นายสมชาย แสวงการ

ด้านนายสมชาย แสวงการ ส.ว. กล่าวว่า จากที่ผมพูดคุยกับ ส.ว. ที่ลงคะแนนเลือกตั้งให้พรรคก้าวไกล พบว่าไม่ได้เห็นด้วยกับนโยบายของพรรคก้าวไกลที่เสนอ เช่น การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ม.112 การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่รวมถึงหมวด 1 หมวด 2 แต่เห็นด้วยกับบางนโยบาย ดังนั้น ในคะแนนเลือกตั้งที่ประชาชนเลือกพรรคก้าวไกล 14 ล้านเสียง อาจไม่เห็นด้วยกับทุกนโยบาย ทั้งนี้ การลงมติเลือกของ ส.ว. ขอให้มั่นใจในดุลยพินิจ และวุฒิภาวะของส.ว. ที่จะพิจารณาในประเด็นสิ่งที่เป็นผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ความสงบสุข

“ส.ว. ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล หรือคำนึงถึงการเปลี่ยนขั้วอำนาจ เปลี่ยนข้างหรือข้ามขั้วหรือไม่ แต่ประเด็นนายกฯ นั้นมีความเกี่ยวข้องกับการตั้งรัฐบาล ดังนั้น ต้องพิจารณาสิ่งที่จะไม่ทำให้เกิดความกังวลในความมั่นคงของประเทศ และไม่นำไปสู่ปัญหาความไม่มั่นคง สำหรับบางนโยบายของพรรคการเมืองพบว่าสุ่มเสี่ยง ดังนั้น ผมขอให้เอาออกเพื่อประโยชน์ของประเทศ” นายสมชาย กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo