นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า จากกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นแคนดิเดตนายกฯ ภายหลังการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 นั้น
นอกจากพล.อ.ประยุทธ์ จะมีตำแหน่งเป็นนายกฯ ซึ่งรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 264 ให้การยกเว้นไว้แต่สำหรับตำแหน่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งได้รับเงินเดือนหรือค่าตอบแทนตามกฎหมาย จะถือว่าเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ เพราะถือว่าเป็น “เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” ตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 160 (6) ประกอบมาตรา 98 (15) บัญญัติห้ามไว้หรือไม่
ปัญหาดังกล่าวมีพรรคการเมืองและผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้นำคำร้องไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยหาข้อยุติแล้ว แต่กลไกของ กกต. อาจจะยังไม่ทันใจ หรือมีข้อเคลือบแคลงสงสัยการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต. จนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากในโซเชียลมีเดียขณะนี้ เนื่องจาก กกต. ได้มีคำสั่งรับรองการเสนอชื่อของพรรคพลังประชารัฐแล้ว
อย่างไรก็ตาม กรณีนี้สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยเห็นว่า ยังมีอีกช่องทางหนึ่งที่จะสามารถทำให้ความจริงปรากฏ และเป็นข้อยุติของปัญหาดังกล่าว เกี่ยวกับคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของ พล.อ.ประยุทธ์ ได้โดยเร็ว คือ การให้ใช้อำนาจหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 230 ประกอบมาตรา 231 (2) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน 2560 มาตรา 22 ประกอบมาตรา 23(2) ซึ่งบัญญัติไว้ว่า กฎ คําสั่ง หรือการกระทําอื่นใดของหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ให้เสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลปกครอง และให้ศาลปกครองพิจารณาวินิจฉัยโดยไม่ชักช้า ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครอง และวิธีพิจารณาคดีปกครอง
“สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความไปร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้นำความเสนอต่อศาลปกครองเพื่อวินิจฉัยโดยเร็วว่าคําสั่ง หรือการกระทําของ กกต.ที่ให้การรับรองพล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯแล้วนั้น เป็นการกระทำโดยชอบ และคุณสมบัติพล.อ.ประยุทธ์ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 160 (6) ประกอบมาตรา 98 (15) หรือไม่”นายศรีสุวรรณ กล่าวและว่า โดยสมาคมฯ จะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินในวันที่ 6 มีนาคมนี้”
