Politics

เปิดสูตรแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรี ‘ก้าวไกล-เพื่อไทย’ ใครได้มากกว่ากัน!

เปิดสูตรแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรี ‘ก้าวไกล-เพื่อไทย’ ใครได้มากกว่ากัน พร้อมลุ้นหารือตำแหน่ง “ประธานสภา” 30 พฤษภาคมนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 เวลา 14.30 น. พรรคก้าวไกล ได้แจ้งกำหนดการว่า พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรคการเมือง จะมีการประชุมพูดคุยแนวทางและแผนงานการทำงานร่วมกันหลังการลงนามเอ็มโอยูเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 ที่ทำการพรรคประชาชาติ เพื่อหารือกรอบถึงการเตรียมความพร้อมในการบริหารและนโยบายของแต่ละพรรคการเมืองให้ไปในทิศทางเดียวกัน

ก้าวไกล

ทั้งนี้ ในวันดังกล่าวจะมีการพูดคุยถึงตำแหน่งต่าง ๆ ในรัฐบาลว่าสัดส่วนรัฐมนตรีของแต่ละพรรคจะได้กี่ที่นั่ง และจะได้รัฐมนตรีกระทรวงใดบ้างที่สอดคล้องกับนโยบายของแต่ละพรรค ขณะที่พรรคเพื่อไทยเองได้มีเริ่มมีการพูดคุยเรื่องวางตัวรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคแล้ว แต่ยังไม่สรุปอย่างทางการว่าบุคคลใดจะเข้ามาทำหน้าที่ในกระทรวงใดบ้าง

โดยสูตรคำนวณแบ่งรัฐมนตรีจะคิดจากจำนวน ส.ส. หารด้วย 8.6 ต่อรัฐมนตรี 1 ที่นั่ง ดังนี้

  • พรรคก้าวไกลได้ 14 ที่นั่งบวก 1 เก้าอี้นายกรัฐมนตรี
  • พรรคเพื่อไทยได้ 14 เก้าอี้
  • พรรคประชาติ ได้ 1 เก้าอี้รัฐมนตรี
  • พรรคไทยสร้างไทย ได้ 1 เก้าอี้รัฐมนตรีช่วย
  • พรรคเล็กที่มี ส.ส. 1-2 ที่นั่งนั้น ได้แก่ พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคเป็นธรรม
  • ส่วนพรรคพลังสังคมใหม่ เมื่อรวมเสียงแล้วอาจจะไม่ถึงสูตรที่กำหนดไว้ ก็อาจจะไม่ได้เก้าอี้รัฐมนตรี

ก้าวไกล

ส่วนตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังไม่มีการพูดคุยในวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 เพราะเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นเรื่องที่สองพรรคต้องพูดคุยกันเองไม่ได้เกี่ยวกับพรรคอื่น แต่แกนนำพรรคเพื่อไทยมองว่าจะต้องมีการหารือกันด้วยเหตุด้วยผล

อย่างไรก็ตาม ส่วนที่เลือกใช้พรรคประชาชาติในการประชุมนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเทียบเชิญให้วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานสภาฯ หรือเข้ามาเป็นกาวใจความไม่ลงรอยที่เกิดขึ้นภายในพรรคร่วมรัฐบาล เพราะหลังจากนี้จะมีการประชุมสลับไปในทุกพรรคเช่นกัน

ขอบคุณที่มา : แนวหน้า

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo