Politics

‘สุชาติ​’ ซัด​ ‘พิธา’ มีแค่​ 14  ล้านเสียงไม่ถึงครึ่งของผู้มีสิทธิ

สุชาติ​” ซัด​ “พิธา” มีแค่​ 14  ล้านเสียง ไม่ถึงครึ่งของผู้มีสิทธิ ไล่ไปหาวิธีหาจัดตั้งรัฐบาลเอาเอง ส่วนรทสช.” จะโหวตให้หรือไม่เป็นเอกสิทธิ์ส่วนตัว

วันที่ 17 ..66 นายสุชาติชมกลิ่นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงจุดยืนของพรรค กรณีเสียงเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมือง โหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ผ่าทางตันเพื่อปิดสวิตช์ส.. โดยกล่าวว่า ตนไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรครทสช.​ ซึ่งเป็นเรื่องของพวกพรรคที่ต้องไปคุยกันเอง ขอให้ใจเย็นๆ เพราะขณะนี้ยังไม่รู้ว่า เมื่อรับรองส..แล้ว จะได้จำนวนเท่าใด ก่อนย้ำว่าตนไม่ใช่กรรมการบริหารพรรคจึงตอบแทนไม่ได้ แต่ส่วนตัวไม่ได้มีนโยบายหรือความคิดตรงกับพรรคก้าวไกล ผมจะไปอยู่กับเขาได้อย่างไร เขาได้คะแนน 30% ของผู้มาใช้สิทธิ์ทั้งหมด 14 ล้านเสียง ได้ไม่ถึงครึ่ง ต้องถามกลับ

พิธา

ส่วนที่มากดดันให้ ..ต้องเคารพเสียงประชาชน นายสุชาติกล่าวว่า สื่อต้องเป็นกระจกเงาสะท้อนกลับไปบ้าง เหมือนเด็กงอแงกินขนม เรียกกินอมยิ้มอย่างเดียว มันต้องดูเหตุและผล ผู้ใหญ่หลายพรรคก็ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว แต่ละพรรคมีจุดยืนมีนโยบายพรรคของตนเอง เขาจะไปแหกข้อบังคับพรรคเขาอย่างไร

แต่ละพรรคมีนโยบาย และจุดยืนเป็นของตัวเอง ที่ไปหาเสียง แม้ประชาชนจะเลือกเขามา 1-2 ล้านเสียง ก็มาเพราะนโยบายนี้ ถ้าไปช่วยคนที่นโยบายไม่เหมือนกันแล้วจะอยู่กันอย่างไรนายสุชาติกล่าว

เมื่อถามย้ำว่า การที่ส..จะไม่โหวตให้ ไม่ใช่การไม่เคารพเสียงจากประชาชน ใช่หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า เขามีแค่ 14 ล้านเสียง จาก 40​ ล้านเสียงแล้วถ้าคนที่เขาเลือกผมมา 4 ล้านเสียง เพราะเขาไม่เอานโยบายพรรคของนายพิธาถ้าผมโหวตให้นายพิธา แล้วผมจะกลับบ้านได้อย่างไร​” พร้อมขอสื่อมวลชนอย่าหลงกลเขา ต้องให้ข่าวความจริงสะท้อนกระจกให้เขาฟัง อย่าให้เขามองว่าเอาตรงนั้นตรงนี้ออกมาช่วย เอาตรงนั้นจะออกมากดดัน คุณมีแค่กี่เปอร์เซ็นต์ มี 14 ล้านเสียงคุณก็ต้องไปจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ มันเป็นหน้าที่ของพรรคแกนนำ

ส่วนที่เอากระแสสังคมมากดดัน ..และ ..จะทำให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า ต้องให้สื่อมวลชนพูดความจริงกับประชาชน ว่าเขามี 14 ล้านเสียง เขาไม่ได้มี 30 ล้านเสียง ถ้าเขาจำเป็นต้องใช้ เสียงคนอื่น แต่คนอื่นไม่มีนโยบายตรงกับเขา แล้วจะไปกันอย่างไร​ “เช่น นโยบายเขาไม่เอาลุงแต่ผมมีลุงแล้วจะไปอย่างไรผมขอถามถูกไหมเพราะคนที่เขาเลือกผมมาก็เพราะไม่เอาพรรคก้าวไกล ที่เสนอแก้อะไรที่คนไทยรับไม่ได้

เมื่อถามย้ำว่า อย่างไรก็รวมกันไม่ได้กับพรรคก้าวไกลแน่นอนใช่หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า การเมืองจะมองเป็นของเล่นไม่ได้ การเมืองคือประเทศชาติบ้านเมือง การเมืองคือพี่น้องประชาชน การเมืองคือความยั่งยืนของลูกหลานเราในอนาคต เราจะมองการเมืองเป็นของเล่น แค่อารมณ์ชั่ววูบ เหมือนไฟไหม้ฟางหรือ มันไม่ใช่นะ เราต้องมีอุดมการณ์ที่เข้มแข็งและชัดเจน ไม่ใช่อุดมการณ์ที่จะไปช่วยเขา แล้วมันเกี่ยวอะไร มันไม่เกี่ยวกัน ส่วนตัวมีเอกสิทธิ์ ..มีเอกสิทธิ์ทุกคน

เมื่อถามว่าได้มีการวิเคราะห์หรือไม่ หากพรรคลำดับที่ 1 จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ จะมีความวุ่นวายตามมา นายสุชาติกล่าวว่า เป็นสิ่งที่พรรคอันดับที่ 1 จะต้องไปคิดเอง จริงๆ แล้วถ้าเขาได้เกิน 250 เสียง ก็ได้ไป แต่ได้ 151 เสียง ก็ต้องไปขอใคร เขาว่าใครเอาไว้ แล้วใครจะไปยอม แต่ละคนก็มีแฟนคลับ

ส่วนถ้าพรรคไกลไม่สามารถจะตั้งรัฐบาลได้ แล้วพรรคอื่นมาชวน รทสช.ไปร่วมรัฐบาล นายสุชาติกล่าวว่าตนไม่สามารถตอบแทนพรรคได้ และเมื่อถามย้ำว่าหากพรรคลำดับที่ 2 จัดตั้งรัฐบาลแล้วมาชวนจะโหวตนายกรัฐมนตรีให้พรรคลำดับที่ 2 หรือไม่นายสุชาติย้อนถามกลับว่า ต้องถามที่จุดยืนของผมก่อน ว่าคืออะไร ผมไม่เอาพรรคก้าวไกลอยู่แล้วถ้าไม่มีนโยบายที่ไปแตะต้องสิ่งที่คนไทยนั้นหวงแหนก็พอแล้ว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำอีกว่าแสดงว่า พร้อมเปิดช่องให้กับพรรคอื่นยกเว้นพรรคก้าวไกล ใช่หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่าต้องยอมรับ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการแช่แข็งทางการเมือง เรามองว่าเป็นการแช่แข็งหรือเปล่าตรงนี้ผมคิดเองนะ แต่ถ้าพรรคก้าวไกลเรียกออกมาช่วยเพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้คุณด่าเขาทุกวันแล้วเขาจะไปอยู่กับคุณได้อย่างไร และต้องกลับไปถามชาวบ้าน เพราะชาวบ้านเลือกเรามา ผมเองก็ต้องกลับไปถามประชาชน ไม่ใช่พูดเล่นนะ

ส่วนพรรคจะโหวตนายกรัฐมนตรีไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่าเป็นเอกสิทธิ์ส่วนตัว แต่ขอย้ำว่า ต้องกลับไปถามประชาชน

อย่างไรก็ตามนายสุชาติยังกล่าวย้ำในช่วงท้ายว่า สื่อมวลชนต้องช่วยกัน อย่าไปหลงกลเขาว่ามี 14 ล้านเสียง แล้วเป็นรัฐบาล เขามีเสียงถึงกึ่งหนึ่งหรือไม่ และต้องถามกลับว่า คุณจะรวมเสียงอย่างไรต้องไปหากันเอง แต่ถ้าจะมากดดัน ..​ แต่ถ้าจะมาเรียกร้อง สส. พรรคต่างๆ โหวตให้เขาผ่าน ผมว่ามันไม่ใช่แล้วแบบนี้ไม่ใช่การเมือง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo