“โฆษกกลาโหม” ยันยังจำเป็นต้อง “เกณฑ์ทหาร” เพื่อรองรับภารกิจด้านความมั่นคง รับยังมี “พลทหารรับใช้” แต่น้อยลง วอนลบภาพจำ “ผู้กองยอดรัก”
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงชี้แจงถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการเกณฑ์ทหาร หลังจากที่มีบางพรรคการเมืองหาเสียงจะยกเลิกการเกณฑ์ทหารว่า ทหารกองประจำการหรือทหารเกณฑ์เป็นกำลังพลหลักของกองทัพที่หมุนเวียนกันเข้ามาทำหน้าที่รับใช้ชาติ รวมถึงการดูแลปกป้องภัยคุกคามรูปแบบใหม่ สำหรับความต้องการทหารกองประจำการนั้น ใน 1 ปีมีชายไทยลงทะเบียนเป็นทหารกองเกินไว้ประมาณ 6 – 7 แสนคน แต่เข้ารับการตรวจเลือกประมาณ 4 -5 แสนคน ส่วนที่หายไปเนื่องจากร่างกายไม่ผ่านการคัดเลือกและอีกส่วนหนึ่งก็มีการขอผ่อนผัน ซึ่งในส่วนความต้องการของกองทัพมีประมาณ 1 แสนคน หรือเป็น 1ใน 5 ของยอดที่เข้ารับการตรวจเลือก ที่ผ่านมาในแต่ละปีมีคนสมัครใจเป็นทหารกองประจำการประมาณ 20% แต่ในปี 2557 – 2558 มียอดสมัครใจถึง 45%
ที่ผ่านมาเรามีบทเรียนจากในอดีตเมื่อเวลาเกิดสงครามคนของเราไม่มีความพร้อม เพราะไม่ได้รับการฝึก จึงทำให้เกิดการสูญเสียเป็นจำนวนมาก ทางรัฐบาลในสมัยนั้นจึงได้ตราพ.ร.บ.การรับราชการทหารปี 2497 ออกมา เพื่อให้ชายไทยทุกคนเข้ามารับการตรวจเลือกการเป็นทหาร ดูแลประเทศชาติ เตรียมกำลังและความพร้อมสามารถเผชิญต่อภัยสงครามได้ ทั้งนี้ในโลกนี้มี 39 ประเทศที่ยังใช้ระบบการเกณฑ์ทหารอยู่ 13 ประเทศที่ยกเลิกระบบการเกณฑ์ทหารไปแล้ว และ 29 ประเทศที่ไม่มีการเกณฑ์หาร แต่ที่ผ่านมามีหลายประเทศที่เคยยกเลิกระบบการเกณฑ์ทหารแล้วนำกลับมาพิจารณาใช้อีก เช่น สวีเดน ลิธัวเนีย และจอร์แดน ส่วนที่อิตาลี โรมาเนีย เยอรมนี และฝรั่งเศส กำลังพิจารณาหลักเกณฑ์การเกณฑ์ทหารกลับมาใช้อีก ส่วนประเทศไทยนั้นจำเป็นต้องใช้การตรวจเลือกทหารแบบผสมทั้งความสมัครใจ และเกณฑ์ทหารควบคู่กัน
ทั้งนี้ทหารที่รับราชการมีอยู่ 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่มีความต้องการเป็นทหารโดยความสมัครใจ 2. กลุ่มที่ถือว่าเป็นหน้าที่ของชายไทย ที่ต้องทำตามกฎหมาย กลุ่มนี้ก็จะเข้ามารับการตรวจเลือกและจับสลากใบดำ-ใบแดง และ 3.กลุ่มที่ไม่ต้องการรับราชการทหารเลย แม้จะมีแรงจูงใจมากเท่าไหร่ก็ตาม อย่างไรก็ตามระบบการเกณฑ์ทหารกำลังมีการพิจารณาควบคู่ไปกับระบบกำลังสำรอง เช่น นักศึกษาวิชาทหารสามารถใช้สิทธิ์ในการเรียนหลักสูตรวิชาทหารเพื่อลดเวลา หรือได้รับการยกเว้นไม่ต้องเข้ารับการตรวจเลือก หรือสามารถไปบรรจุอยู่ในบัญชีกำลังพลสำรองในชั้นยศต่างๆ เพื่อเรียกระดมในสถานการณ์วิกฤต วันนี้เราเปิดโอกาสให้ชายไทยได้มีหลายช่องทาง ไม่ใช่ว่าทุกคนต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหารทั้งหมด การเข้ามาเป็นทหารกองประจำการ ทางกองทัพจะดูแลเรื่องสิทธิในหลายเรื่อง และดูแลคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น โดนเชื่อว่าชายไทย ที่ผ่านการเกณฑ์ทหาร ทุกคนเมื่อปลดประจำการไปแล้ว ก็จะเป็นผู้นำทางสังคมและผู้นำครอบครัวที่ดี ไม่สร้างปัญหาให้สังคม เป็นคนมีระเบียบวินัย มีอุดมการณ์เพื่อชาติ และเป็นคนที่มีคุณภาพ แม้เราจะไม่ได้ออกไปรบ แต่ต้องเตรียมกำลังให้พร้อม โดยเฉพาะมิติงานด้านความมั่นคง
เมื่อถามว่า สังคมยังรู้สึกว่าทหารเกณฑ์ถูกนำไปเป็นพลทหารรับใช้บ้าน จะลดจำนวนตรงนี้หรือยกเลิกไปเลยหรือไม่ พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ตนไม่ได้ปฏิเสธ แต่วันนี้ถือว่าน้อยมากหรือแทบจะไม่มี ถือเป็นนโยบายอยู่แล้วที่เราหลีกเลี่ยงการใช้ทหารไปทำภารกิจที่ไม่เหมาะสม โดยเคารพในเกียรติและศักดิ์ศรี ภาพเก่าๆ ในละครผู้กองยอดรักที่ใช้ไปซักผ้าคงไม่มีให้เห็น เพราะทุกบ้านมีเครื่องซักผ้าใช้หมดแล้ว
“ที่มีการเรียกร้องให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหารในภาวะที่เราต้องการทหารขนาดนี้ จะยอมรับกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ วันนี้ต้องศึกษาและทำความเข้าใจกันก่อน ไม่อยากให้มีการพูดกันลอยๆ จะกระทบต่อจิตใจต่อคนปฏิบัติหน้าที่ พลทหารทุกคนเป็นรั้วของชาติที่มีชีวิต จิตใจ ควรมาหันมาให้เกียรติและให้กำลังใจในการทำงาน ผมเชื่อว่าชายไทยทุกคนจะภาคภูมิใจและเดินเข้ามาสมัครเป็นทหาร” พล.ท.คงชีพ กล่าว
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ และพรรคเสรีรวมไทย หาเสียงยกเลิกการเกณฑ์ทหาร หากเข้ามาเป็นรัฐบาล กองทัพจะชี้แจงหลักการนี้ได้หรือไม่ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พรรคการเมืองเหล่านั้นก็เคยทำงานทางการเมืองมาแล้ว และเป็นนักการเมืองหน้าเดิมๆ รัฐบาลที่ผ่านมาก็เป็นรัฐบาลในวิถีประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลที่มาจากพรรคเพื่อไทย หรือพรรคประชาธิปัตย์ เคยทำงานในสภาฯ การแก้ไขพ.ร.บ.การเกณฑ์ทหาร ก็อยู่ในสภาฯ รวมถึงการรับกำลังพลเข้ามาเป็นทหารก็ต้องมีการขออนุมัติงบประมาณจากครม. จึงไม่อยากไปหาเสียงในลักษณะลอยๆ ว่าจะยกเลิกการเกณฑ์ทหาร
