Politics

‘นายกฯ’ อวดตัวเลขเศรษฐกิจไทย ส่งสัญญาณบวกต่อเนื่อง ลั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ!

“นายกรัฐมนตรี” อวดตัวเลขเศรษฐกิจไทย ส่งสัญญาณบวกต่อเนื่อง ลั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ชี้ประเทศไทยไม่เคยหยุดพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ แม้จะเกิดวิกฤติโลกมานานกว่า 3 ปี

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์เฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut-Chan-o-cha ระบุว่า พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักครับ โลกยังเต็มไปด้วยความท้าทายและความไม่แน่นอน เศรษฐกิจโลก และสงครามความขัดแย้ง ในมุมหนึ่งของโลก ส่งผลย้อนกลับมาสู่ปัญหาปากท้องของคนไทย-สังคมไทย ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

เศรษฐกิจไทย

วัดชีพจรประเทศไทย

ดังนั้น ในการประชุม ครม. ทุกครั้ง ผมจึงได้หยิบยกข้อมูล-ข้อเท็จจริงต่าง ๆ มาหารือกับคณะรัฐมนตรี เหมือนการ “วัดชีพจร” ประเทศไทย เพื่อประเมินศักยภาพและหาแนวทางป้องกัน แก้ไข หรือปรับแผนการดำเนินงานต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ โดยผลการประเมินผลล่าสุด มีสัญญาณบวกในหลายมิติ สรุปได้ดังนี้

1. เศรษฐกิจในภาพรวมปี 2566 คาดว่าจะขยายตัว 3.6% มีปัจจัยหนุนจากภาคการท่องเที่ยวและบริการ, การบริโภคปรับตัวดีขึ้นทุกภูมิภาค, อัตราเงินเฟ้อลดลง อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนมีนาคม 2566 ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรม ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และสูงสุดในรอบ 10 ปี ในขณะที่อัตราการว่างงานต่ำกว่า 1% นับเป็นอัตราที่ต่ำที่สุด และเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 4 ปี

เศรษฐกิจไทย

2. ภาคเกษตรกรรมและการส่งออก

  1. การส่งออกข้าวช่วง 2 เดือนแรกของปี 66 ไทยเป็นอันดับ 2 ประเทศผู้ส่งออกข้าวของโลก รวมกว่า 1.4 ล้านตัน มูลค่าเพิ่มขึ้น 38.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามความต้องการข้าวในตลาดโลก ในขณะที่การส่งออกทุเรียนสดไปยังประเทศจีนในปีนี้ คาดว่าไม่น้อยกว่า 700,000 ตัน มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท
  2. การส่งออกสินค้าประมง หลังจากรัฐบาลสามารถแก้ปัญหา IUU ได้สำเร็จ นานาชาติเชื่อมั่นการประมงไทย ส่งผลให้มียอดส่งออกปี 65 สูงขึ้นกว่า 2.29 แสนล้านบาท

สำหรับการส่งออกรายสินค้าอื่น ๆ ที่มีคนไทยเป็นเจ้าของ ภาพรวมปี 65 มีมูลค่า 73,603.2 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 25.6% ของมูลค่าส่งออกรวม

เศรษฐกิจไทย

3. ภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนจากต่างประเทศ

  1. การขับเคลื่อนอุตสาหกรรม EV ของรัฐบาล ส่งผลให้มียอดจดทะเบียน EV เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยช่วง ม.ค.-มี.ค.66 นี้ มีจำนวนเพิ่มจาก 4,543 – 7,335 – 8,522 คัน ตามลำดับ ในขณะที่สำนักข่าว Nikkei ของญี่ปุ่น มองว่าไทยจะเป็นจุดหมายสำคัญของนักลงทุนญี่ปุ่น – จีน – เกาหลีใต้ สำหรับฐานการผลิตชิ้นส่วนและรถยนต์ EV ซึ่งปัจจุบันกำลังพิจารณาการลงทุน และเพิ่มเติมกำลังการผลิตในไทยด้วย
  2. การลงทุนของบริษัทต่างชาติในไทย ไตรมาสแรกปี 66 มีมูลค่า 33,048 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกปี 65 กว่า 25% ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ขณะที่ประมาณ 18% ของนักลงทุนทั้งหมด สนใจลงทุนในพื้นที่ EEC มีมูลค่าการลงทุน 3,264 ล้านบาท
  3. ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลสามารถพัฒนาแรงงานและส่งเสริมการประกอบอาชีพ ทำให้แรงงานมีทักษะฝีมือเพิ่มสูงขึ้น สามารถปรับตัวเท่าทันเทคโนโลยี เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานทั้งในและนอกประเทศ จำนวน 5,255,833 คน ส่งผลให้มีรายได้เฉลี่ยสูงขึ้นเป็น 13,775 บาทต่อคนต่อเดือน หรือเฉลี่ย 157,890 บาทต่อคนต่อปี ซึ่งในปี 66 นี้ รัฐบาลตั้งเป้าจัดส่งแรงงานโดยภาครัฐไปทำงานต่างประเทศ จำนวน 11,300 คน

เศรษฐกิจไทย

4. การท่องเที่ยวและบริการ

  1. ภาคการท่องเที่ยวไทยส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ตั้งแต่ต้นปี 66 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเยือนไทยในช่วง ม.ค.-มี.ค.66 สะสมอยู่ที่ 6,465,737 คน สร้างรายได้รวม 256,194 ล้านบาท โดยรัฐบาลตั้งเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้ 25 – 30 ล้านคน เพื่อดึงรายได้เข้าประเทศ 1.5 ล้านล้านบาท
  2. การขับเคลื่อนนโยบายสร้างมูลค่าเพิ่มจาก Soft Power ทั้งสินค้าและบริการทางวัฒนธรรม “5F” มีเป้าหมายหารายได้เข้าประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จาก 1.5 ล้านล้านบาท ในปี 65 เป็น 3.45 ล้านล้านบาท ในปี 70 หรือประมาณ 15% ของ GDP

สถิติเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน ซึ่งประเทศไทยไม่เคยหยุดพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ แม้จะเกิดวิกฤตโลกกินเวลายาวนานกว่า 3 ปี เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในวันข้างหน้า นอกจากนี้ ผมยังได้พยายามสร้างความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทาน ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ ตั้งแต่ต้นทาง-กลางทาง-ปลายทาง เพื่อให้มั่นใจว่ารายได้เข้าประเทศที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ ได้กระจายไปสู่ประชาชนให้ได้มากที่สุด และในทุกภูมิภาคของประเทศอีกด้วยครับ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK