Politics

‘บิ๊กป้อม’ เปิดเวทีใหญ่ภาคใต้ ขอคน ‘นครศรีธรรมราช’ เลือก ‘พลังประชารัฐ’ ยกทีม ร่วมก้าวข้ามความยากจน

“พล.อ.ประวิตร” ขนทัพหลวงเปิดเวทีใหญ่ภาคใต้ คนแน่นเต็มลานหน้าเมือง ขอความรักคนเมืองคอนฯ เลือก พลังประชารัฐทั้ง 10 เขต ร่วมก้าวข้ามความยากจน

วันนี้ (29 เม.ย.)  พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ภาคใต้ ณ สนามหน้าเมือง ถนนราชดำเนิน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และคณะกรรมการบริหารพรรค ประกอบด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ และ ดร.คณิศ แสงสุพรรณ ทีมนโยบายพรรค

พลังประชารัฐ

พร้อมด้วยผู้สมัครส.ส.ทั้ง 10 เขตในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบด้วยนายรงค์ บุญสวยขวัญ เขต 1 เบอร์ 1 นางสุภาพ ขุนศรี เขต 2 เบอร์ 6 นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง เขต 3 เบอร์ 5 นายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ เขต 4 เบอร์ 6 นายสุชาติ จิตติศักดิ์ เขต 5 เบอร์ 2 นายสุธรรม จริตงาม เขต 6 เบอร์ 5 นายคมเดช มัชฌิมวงศ์ เขต 7 เบอร์ 3 นายสุนทร รักษ์รงค์ เขต 8 เบอร์ 1 นายพิชาญศักดิ์ บุญมาศ เขต 9 เบอร์ 1 และนายชุ้น กังสุกุล เขต 10 เบอร์ 6

บรรยากาศเต็มไปด้วยประชาชนเข้าร่วมรับฟังนโยบายเต็มพื้นที่ กว่า 20,000 คน โดยประชาชนต่างโบกธงให้กำลังใจ พร้อมประสานเสียงโห่ร้องเชียร์ เบอร์ 37 อย่างต่อเนื่อง

พลังประชารัฐ

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนและพรรคพลังประชารัฐพร้อมจะรับใช้ชาวนครศรีธรรมราชทุกคนให้มีความเจริญรุ่งเรือง พรรคเลือกคนดี และคนเก่งมาเป็นผู้แทนของชาวนครฯจึงขอให้เลือกผู้สมัครของพลังประชารัฐทั้ง 10 เขต และเลือกพรรคพลังประชารัฐเบอร์ 37 บัตรสีเขียว โดยวันนี้อยากให้คนไทยรักกัน เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อที่จะก้าวข้ามความขัดแย้ง และความยากจนไปด้วยกัน จึงขอให้เชื่อมั่นในพรรคพลังประชารัฐ

พลังประชารัฐ

พรรคพลังประชารัฐได้นำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เพิ่มเป็น 700 บาทต่อเดือน ลดราคาน้ำมัน ราคาแก๊ส ค่าไฟฟ้าลงทันทีที่เข้ามาเป็นรัฐบาล โดยจะลดราคาน้ำมันเบนซินลง 18 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลลด 6.30 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำทันที ที่พลังประชารัฐได้เข้ามาเป็นรัฐบาล

รวมทั้งยังมีมาตรการลดราคาแก๊สให้เหลือ 250 บาทต่อถัง ที่สำคัญ คือ ลดค่าไฟฟ้าครัวเรือนให้เหลือ 2.50 บาทต่อหน่วย และลดค่าไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมเหลือ 2.70 บาทต่อหน่วย เพื่อมอบความสุขให้ประชาชนด้วยความจริงใจ พลังประชารัฐจะทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น

พลังประชารัฐ

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายเพิ่มเงินในบัญชีของประชาชนอย่าง สวัสดิการผู้สูงอายุ 3 4 5 และ 6 7 8 โดยผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจะได้รับ 3,000 บาท อายุ 70 ปีขึ้นไป จะได้รับ 4,000 บาท และอายุ 80 ปีขึ้นไปจะได้รับ 5,000 บาท รวมไปถึงนโยบาย ‘แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ’ แจกเงินคนท้องเดือนละ 10,000 บาท ในเดือนที่ 5 จนกว่าจะคลอด  และเงินช่วยดูแลลูกอีกเดือนละ 3,000 บาท จนถึง 6 ขวบ

อีกหนึ่งนโยบายที่สำคัญก็คือ “มีเราไม่มีแล้ง มีน้ำไม่มีจน” ที่ได้บริหารจัดการมากว่า 3 ปี และจะทำต่อไป เช่นเดียวที่ดินกิน ถ้ามีพลังประชารัฐก็มีที่ดินทำกิน ไม่มีจน พรรคจะทำให้ประชาชนทั่วทั้งประเทศมีที่อยู่อาศัย มีที่ประกอบสัมมาวิชาชีพ จะสนับสนุนเงินให้เกษตรกรทั่วประเทศ จำนวน 30,000 บาท ทั้ง 8 ล้านครอบครัว เพื่อแก้ปัญหาความยากจนด้วย

ทางด้านนายสันติ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พรรคจะก้าวข้ามความขัดแย้ง เพราะความขัดแย้งเป็นตัวบ่อนทำลาย และขวางการพัฒนาประเทศ นโยบายของพล.อ.ประวิตรจึงเป็นหัวใจของการพัฒนาประเทศ ที่จะทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ทั้งยังมีนโยบายที่จะก้าวข้ามความยากจน ที่จะพัฒนาให้ความช่วยเหลือดูแลลงมายังประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง

พลังประชารัฐ

“จากการที่กระทรวงการคลังได้ดำเนินการบัตรประชารัฐให้ประชาชนจำนวน 14.59 ล้านคน พล.อ.ประวิตร จึงเติมเงินเข้าไปในบัตรประชารัฐเป็น 700 บาท เรายังคำนึงถึงการสร้างอาชีพให้กับพี่น้องประชาชนที่มีบัตรประชารัฐต้องมีที่ทำกิน มีฝีไม้ลายมือ ในการประกอบอาชีพ พรรคพลังประชารัฐจึงจะเติมเงินให้ไปเป็นทุนอีกรายละ 30,000 บาท เพื่อให้ทุกคนได้นำไปตั้งต้นประกอบอาชีพ ทั้งนี้เราจะส่งเสริมให้มีการฝึกอาชีพก่อนเพื่อให้มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญที่จะไปประกอบอาชีพในอนาคตด้วย”

ส่วน ร.อ.ธรรมนัส ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ ระบุว่า  วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ของชาวนครศรีธรรมราช เชื่อว่าเวทีแห่งนี้ไม่เคยมีพรรคใดทำยิ่งใหญ่เหมือนครอบครัวพลังประชารัฐ ที่นี่คือเมืองหลวงของปักษ์ใต้ ดังนั้นพรรคจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญ ที่จะพัฒนาให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ ให้มีความเจริญเช่นเดียวกับภาคตะวันออก

“การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 พรรคพลังประชารัฐได้รับเกียรติ และโอกาสจากชาวนครศรีธรรมราชทุกคน ส่งผู้สมัครของเราเข้าไปทำหน้าที่ในสภา เป็นปากเป็นเสียงให้กับพี่น้อง ซึ่งทุกคนก็ทำหน้าที่อย่างเต็มภาคภูมิใจ เต็มศักยภาพ โดยมีจุดมุ่งหมายสูงสุดอยู่ที่ผลประโยชน์ของชาวนครฯ ครั้งนี้เรากลับมาขอโอกาสอีกครั้งหนึ่ง และเราพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า พปชร.เรามีความตั้งใจ ตั้งมั่นที่จะรับใช้คนไทยทั้งประเทศ”

พลังประชารัฐ

ดร.คณิศ แสงสุพรรณ กล่าวว่า พรรคจะมาพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ทั้ง 5 จังหวัด ได้แก่ สตูล นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และ สงขลา จะผลักดันให้เป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษในรูปแบบเดียวกันกับภาคตะวันออก ที่จะเห็นว่าปัจจุบันเศรษฐกิจเติบโตเป็นเท่าตัว โดย พล.อ.ประวิตรได้มีการคุยกับนายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาคใต้ทั้ง 2 ฝั่งร่วมกันแล้ว

“เมื่อพลังประชารัฐได้จัดตั้งรัฐบาล เราจะเปิดเศรษฐกิจใหม่ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ และกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวมากขึ้น เพื่อสร้างให้ทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ยกระดับเป็นพื้นที่ ๆ มีศักยภาพ สามารถสร้างรายได้ และอาชีพ โดยนโยบายดี ๆ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อพี่น้องประชาชนเลือกพรรคพลังประชารัฐ เลือกพล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30”

พลังประชารัฐ

ขณะที่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมืองพลังประชารัฐ กล่าวว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นหนึ่งในจังหวัดที่จะชี้ชะตาการเลือกตั้ง ซึ่งวันนี้มีพรรคการเมืองเดียว ที่จะเป็นตัวแปรสำคัญต่อการตัดสินใจชองชาวภาคใต้ โดยเป็นตัวแปรให้ผ่านพ้นการต่อสู้และขัดแย้ง ก็คือ พลังประชารัฐ

“เราเป็นพรรคที่จะสามารถรวมทุกฝ่าย พี่น้องประชาชนกำลังชี้ชะตาอนาคตประเทศไทย หากตัดสินใจผิด เลือกพรรคผิด เลือกผู้แทนที่ไม่ได้เป็น ส.ส.ของรัฐบาล จะไม่มีใครดูแลประชาชน ดังนั้นขอให้เลือก ส.ส.ของ พปชร.ทั้ง 10 เขต และเลือก พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ เพราะเป็นคนเดียว ที่มีบารมีการเมืองมากที่สุด เชื่อมโยงคนทุกฝ่ายได้ เป็นคนเดียวที่มีประสบการณ์การเมืองยาวนานที่สุด”

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo