Politics

‘ภูมิใจไทย’ ไม่ทน!! ร้อง ‘กกต.’ ฟัน ‘ชูวิทย์’ โจมตี ลุยฟ้องหมิ่นทั่วประเทศ

“ศุภชัย” เผย “ภูมิใจไทย” ไม่ทน!! ร้อง “กกต.” ฟัน “ชูวิทย์” มุ่งร้ายทำลายพรรค เตรียมลุยฟ้องหมิ่นทั่วประเทศ ชี้หลายหน่วยงานรัฐเล็งดำเนินคดีด้วย

พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรค แถลงข่าวกรณีที่มีบุคคลกล่าวหารัฐมนตรีของพรรคว่า กรณีดังกล่าวพรรคขอยืนยันว่า ตลอดเวาที่ผ่านมา ในฐานะที่รัฐมนตรีของพรรคได้ปฏิบัติหน้าที่มีกระบวนการทางนิติบัญญัติในการตรวจสอบ และมีการดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ อาทิ การร้องกล่าวหานายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แต่กรณีที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามเกินกว่าการตรวจสอบทั่วไป แต่เป็นการสร้างระบบศาลเตี้ยเข้ามาเพื่อทำการปลุกปั่นสังคมให้เกิดความเข้าใจผิด โดยไม่สนใจข้อเท็จจริงเรื่องความผิดถูกที่อยู่ในกระบวนการตรวจสอบ

ภูมิใจไทย

ดังนั้น พรรคจึงต้องออกมายืนยันว่า การกล่าวหานั้นเป็นการกล่าวร้ายพรรคโดยมีวาระซ่อนเร้นอยู่ ที่ผ่านมา เราพยายามปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ซึ่งแน่นอนว่าการดำเนินการของพรรคอาจกระทบคนบางคน บางกลุ่ม หรือนิติบุคคลบางแห่ง แต่เรายืนหยัดเสมอมาว่า เราได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ซึ่งเป็นการปฏิบัติทุกอย่างภายใต้กฎหมาย ดังนั้น เรื่องถูกผิดต้องดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย

“กรณีของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ที่มีการประกาศอย่างชัดเจนว่ารับงานมาเพื่อมุ่งร้ายทำลายพรรคภูมิใจไทย กรณีนี้เป็นการใช้สิทธิที่ไม่สุจริตในฐานะประชาชนที่จะติชมด้วยความเป็นธรรม แต่มีเจตนาซ่อนเร้น ซึ่งเป็นการใช้เสรีภาพของประชาชนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการพูดอาฆาตมาดร้าย และมีการแสดงออกตามพื้นที่ต่าง ๆ” นายศุภชัย กล่าว

ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นถามว่ารับงานจากใคร ก็มีข่าวปรากฏออกมาค่อนช้างชัด ว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่เสียประโยชน์ในสิ่งที่พรรคออกมาปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ดังนั้น ในวันนี้พรรคจะดำเนินการกับบุคคลใดก็ตามที่เข้ามากล่าวร้าย บิดเบือน พรรคภูมิใจไทยในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง เราเชื่อมั่นในหลักนิติรัฐ นิติธรรม จะไม่ยอมให้กระบวนการที่ทำเหมือนเป็นศาลเตี้ยเข้ามาจนทำให้กระบวนการทางกฎหมายสั่นคลอน

ภูมิใจไทย
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์

“วันนี้นายชูวิทย์หรือใครก็ตามที่นำเรื่องที่นายชูวิทย์แถลง ไปใช้ประโยชน์ทางการเมือง มุ่งร้าย บิดเบือนพรรคภูมิใจไทย เราจะดำเนินการทุกคดีกับใครก็ตามที่ใส่ร้ายพรรค ทำให้พรรคเสื่อมเสีย โดยพรรคยึดหลักการเคารพกฎหมาย ฉะนั้น เมื่อมีบุคคลที่ไม่เคารพกฎหมายมาทำแบบนี้ เราก็จำเป็นต้องปกป้องศักดิ์ศรี และคะแนนนิยมของพรรค โดยจะดำเนินการทางกระบวนการยุติธรรมทุกเรื่องกับทุกฝ่ายกับบุคคลทุกคนที่เข้ามายุ่งเกี่ยว” นายศุภชัย กล่าว

นายศุภชัย กล่าวอีกว่า นี่เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย พรรคจะดำเนินคดีเพื่อปกป้องสิทธิของเรา โดยยึดหลักบ้านเมืองที่ต้องมีขื่อมีแป เราไม่ได้ปิดปากนายชูวิทย์ เพราะถ้าจะใช้เสรีภาพติชมเราไม่มีปัญหา แต่ถ้าใส่ร้ายป้ายสีถือว่าเป็นการล่วงละเมิดต่อพรรค วันนี้ (16 มี.ค.) พรรคจะยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาตรา 22 ระบุว่า กกต.ต้องมีหน้าที่ในการกำกับดูแลให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม ให้เกิดความเรียบร้อย ไม่ว่าจะอยู่ในระหว่างมีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เลือกตั้งหรือไม่ก็ตาม รวมถึง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 73 ระบุว่า ห้ามไม่ให้ผู้ใดใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น ซึ่งมีผลทำให้ประชาชนมีความเข้าใจหลงผิดในคะแนนนิยม ทั้งหมดเป็นโทษทางอาญา

“มีคนถามว่าทำไมพรรคภูมิใจไทยปล่อยให้นายชูวิทย์ดำเนินการไปเรื่อย ๆ นั้น ผมยืนยันว่า เรื่องนี้เราจะเริ่มดำเนินคดี โดยผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 400 เขต ที่ได้รับความเสียหายจากนายชูวิทย์ จะไปดำเนินคดีกับนายชูวิทย์ และจะร้องกกต.จังหวัดแต่ละเขต รวมถึงฟ้องคดีอาญานายชูวิทย์ ผมเชื่อว่าท่านไม่กลัวติดคุก เพราะท่านเคยติดคุก อาจเสพติดเรื่องการติดคุก มีคดีมาก ๆ ท่านอาจจะชอบก็ได้ แต่พรรคต้องทำเพื่อปกป้องสิทธิ ปกป้องชื่อเสียงเกียรติคุณของพรรค มีสุภาษิตกฎหมายคำหนึ่งว่า บุคคลจะต้องไปศาลด้วยมือที่สะอาด ซึ่งอาจจะหมายถึงว่าตัวผู้ร้องต้องเป็นบุคคลที่สะอาด ฉะนั้น การที่นายชูวิทย์ไม่ได้ใช้สิทธิโดยสุจริต แต่กระทำด้วยการอาฆาตมาดร้าย นายชูวิทย์จึงไปร้องโดยที่มือไม่สะอาด” นายศุภชัย กล่าว

ภูมิใจไทย

เมื่อถามว่า หากพบหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงคนที่นายชูวิทย์รับงานจะดำเนินคดีด้วยหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า จะดำเนินคดีด้วยแน่นอนหากพบหลักฐานที่เชื่อมโยง ซึ่งขณะนี้มีหลักฐานอยู่พอสมควรแล้ว ทั้งนี้ ถ้านายชูวิทย์ใช้สิทธิ์โดยสุจริตของท่านก็ถือเป็นสิทธิ์ แต่หากท่านไม่มีข้อมูล และไปยื่นคำร้องอันเป็นเท็จ จะถือว่าเป็นการยิงเท็จได้เหมือนกัน ซึ่งพรรคจะขอศึกษาเรื่องนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม กว่า 90% ของนายชูวิทย์คือก๊อปปี้จากคนอื่นและเป็นการมโน

นายศุภชัย ยังแถลงกรณีที่นายชูวิทย์ ระบุมีเอกสารการโอนเงิน หรือบอกว่ามีเงินทอน 3 หมื่นล้าน โอนจากประเทศไทยไปสิงคโปร์ธนาคาร HSBC ว่า สิ่งที่กระทรวงคมนาคมถามไปว่าใครโอน ใครรับโอน ทั้งที่โครงการนี้ยังไปไม่ถึงไหน อีกทั้งเรื่องยังไม่เข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ชูวิทย์ก็เฉไฉไม่ยอมตอบ เหตุเพราะสิ่งที่พูดไม่มีอยู่จริงใช่หรือไม่

นอกจากนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้แจ้งข้อกล่าวหากรณีรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียว มีถูกกล่าวหา 13 คน คือ อดีตผู้ว่ากทม. บีทีเอส และผู้บริหาร ตนก็อยากถามนายชูวิทย์ ว่าถ้าคุณคิดว่าคุณมือสะอาดปกป้องผลประโยชน์ของชาติ กรณีสายสีส้มที่ยังไม่มีการดำเนินการขั้นไหนเลย และฝ่ายค้านยื่นไปแล้ว ท่านก็ช่วยไปตรวจสอบเรื่องสายสีเขียวด้วยได้หรือไม่ ว่ากรณีสายสีเขียวมีเงินทอนหรือไม่

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK