“ศาลรัฐธรรมนูญ” มีมติเป็นเอกฉันท์!! ไม่ให้นำจำนวนคนต่างด้าวมาใช้ในการคำนวณ ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี และไม่มีผลย้อนหลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 มี.ค.) องค์คณะตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญ ได้กำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจในการประกาศจำนวนส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 86 ซึ่งคิดคำนวณจำนวนส.ส.โดยนำจำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรที่สำนักทะเบียนกลางประกาศ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 มาใช้คิดคำนวณส.ส.แบบแบ่งเขตของแต่ละจังหวัด ต่อมามีผู้โต้แย้งและขอให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย
ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า การกำหนดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 86 (1) ที่กำหนดให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรที่ประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้งนั้น คำว่า “ราษฎร” ไม่หมายความรวมถึงผู้ไม่ได้สัญชาติไทย
คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 76 วรรคหนึ่งและวรรคสาม และไม่มีผลย้อนหลังไปถึงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ผ่านมา
โดยวันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของ กกต.ในการประกาศจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดตามรัฐธรรมนูญ
เนื่องจากที่ผ่านมา กกต.คิดคำนวณจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีจากจำนวนราษฎรทั้งประเทศ โดยยึดหลักฐานทะเบียนราษฎร์ที่สำนักทะเบียนกลางได้ประกาศไว้เมื่อวันที่ 31 ธันวาคมของปีที่ล่วงมา ซึ่งมีผู้แสดงความคิดเห็นโต้แย้งว่าการที่ กกต.นำจำนวนคนต่างด้าวมารวมคำนวณไว้ด้วยไม่ถูกต้อง พร้อมทั้งขอให้ กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยให้เกิดความชัดเจน จะได้ไม่มีการร้องเรียนตามมาในภายหลัง
ทั้งนี้ หากไม่นับรวมราษฎรที่ไม่มีสัญชาติไทยจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจำนวน ส.ส. ใน 8 จังหวัด โดย 4 จังหวัดที่มีคนต่าวด้าวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากจะมี ส.ส.ลดลง และทำให้อีก 4 จังหวัดมี ส.ส.เพิ่มขึ้น
โดยจังหวัดที่จะมีจำนวน ส.ส. ลดลง จังหวัดละ 1 คน ได้แก่ จ.ตาก ลดจาก 4 คน เหลือ 3 คน, จ.เชียงราย ลดจาก 8 คน เหลือ 7 คน, จ.เชียงใหม่ ลดจาก 11 คน เหลือ 10 คน และ จ.สมุทรสาคร ลดจาก 4 คน เหลือ 3 คน
ส่วนจังหวัดที่จะมีจำนวน ส.ส.เพิ่มขึ้น จังหวัดละ 1 คน ได้แก่ จ.อุดรธานี เพิ่มจาก 9 คน เป็น 10 คน, จ.ลพบุรี เพิ่มจาก 4 คน เป็น 5 คน, จ.นครศรีธรรมราช เพิ่มจาก 9 คน เป็น 10 คน และ จ.ปัตตานี เพิ่มจาก 4 คน เป็น 5 คน
หลังการแบ่งเขตใหม่ในกรณีนี้จะทำให้ ภาคใต้มี ส.ส.เพิ่มขึ้นจาก 58 คน เป็น 60 คน คือ เพิ่มขึ้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.ปัตตานี จังหวัดละ 1 คน ขณะที่ภาคอีสานมี ส.ส.เพิ่มขึ้นจาก 132 คน เป็น 133 คน คือ เพิ่มขึ้นที่ จ.อุดรธานี 1 คน ภาคเหนือมี ส.ส.ลดลงจาก 39 คน เหลือ 36 คน คือ ลดลงที่ จ.ตาก เชียงราย และ เชียงใหม่ จังหวัดละ 1 คน และ ภาคกลาง ลดลงจาก 89 คน เหลือ 88 คน คือ ลดลงที่ จ.สมุทรสาคร 1 คน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- กกต.ยุคใหม่ จับมือ TikTok เปิดศูนย์ข้อมูลการเลือกตั้ง เฝ้าระวัง ตรวจสอบ ข่าวบิดเบือน
- เลือกตั้ง 2566 ‘ไพศาล’ ฟันธง คนไทยไม่เลือกพรรคต่อไปนี้แน่นอน
- มติเอกฉันท์ ‘ศาลรธน.’ ชี้ ‘กม.ลูกพรรคการเมือง’ ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ