“บิ๊กตู่” บ่นเยอะ! ทำเสียงหาย ลั่นไม่ได้ป่วย แค่ทำงานหนัก วอน! ขอให้ช่วยกันให้เรียบร้อยทุกเรื่อง อย่าให้เกิดความแตกแยก ชิงชัง
ที่เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดและมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า เรื่องการแก้ไขปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบได้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการเฝ้าระวังการทุจริตประพฤติมิชอบอย่างจริงจังและเข้มงวด ทุกอย่างต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมมีขั้นตอนในการดำเนินการทุกอย่าง
อะไรก็ตามที่เป็นความผิดต้องถูกดำเนินการทางกฎหมายทั้งสิ้นไม่มีข้อยกเว้น และขึ้นอยู่กับหลายส่วนด้วยกันที่ต้องร่วมมือกันขอฝากไว้ด้วยในเรื่องนี้ ขอให้ทุกคนให้ความสำคัญ ตนไม่เคยปล่อยปละละเลยใด ๆ ทั้งสิ้น ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องตามความรับผิดชอบของทุกส่วนในกระบวนการยุติธรรม ที่จะต้องมีความร่วมมือของประชาชนในการร่วมมือร้องทุกข์กล่าวโทษ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนเว็บไซต์ภาษีไปไหนตนได้มีการสั่งการเพิ่มเติม ว่าให้ว่าภาษีไปไหน มาแล้วให้รู้ว่าภาษีมาจากไหนต้องรู้ว่าทุกอย่างมาอย่างไรไปอย่างไร ใช้จ่ายงบประมาณอย่างคุ้มค่าจัดสัดส่วนต่างๆ ได้เหมาะสมหรือไม่จะได้รู้ได้เข้าใจกัน แล้วจะเป็นปัญหาในอนาคต ส่วนการใช้จ่ายเงินจะใช้ ให้ใคร นั่นคือรายจ่ายต้องคำนึงถึงที่มาของรายได้
“อยากบอกให้ทุกคนทราบว่า รัฐบาลเป็นห่วงเป็นใยทุกคนทุกกลุ่มทุกฝ่ายทุกพวก แต่จะทำอย่างไรให้เกิดความเป็นธรรมในการใช้จ่ายงบประมาณที่ได้มาจากภาษีของประชาชน ในแต่ละประเภทให้เกิดความสมดุลเกิดความเป็นธรรม เพราะฉะนั้นจะต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากที่สุด” นายกรัฐมนตรี กล่าว
อย่างไรก็ตาม วันนี้เรื่องทั้งหมดที่มอบนโยบายวันนี้ เป็นระดับรัฐบาล ระดับ ครม.ที่ต้องเรียบเรียง ซึ่งระดับปฏิบัติก็ต้องทำตามนี้ ไม่เช่นนั้นใช้อะไรก็ได้ จ่ายอะไรก็ไม่ได้ไม่เกิดประโยชน์ ซึ่งมันไม่ได้ เพราะอันตราย และยอมรับว่ามีปัญหาต่าง ๆ อยู่บ้าง ก็ทำต่อก็แล้วกัน งบประมาณ 2567 ที่ต้องเตรียมความพร้อมให้กับรัฐบาลต่อไปด้วย นี่คือหลักการของตนในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้ารัฐบาล เพราะฉะนั้นจะต้องไม่มีการทุจริต ถ้ามีก็ต้องถูกลงโทษเท่านั้นเอง ตนไม่เคยละเว้นใครทั้งสิ้น เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมต้นทางการทางปลายทางดำเนินการ
สำหรับสถานการณ์การเงินการคลังเราอยู่ในเกณฑ์ที่มีความมั่นคง งบประมาณได้รับการยอมรับ และมีการพัฒนาประเทศมากมายแม้จะมีผลกระทบการเปลี่ยนแปลงจากภายในและภายนอกประเทศทั้งโควิด-19 และสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงขณะความขัดแย้งปัญหาทางภูมิศาสตร์ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกผัน จึงจำเป็นต้องใช้จ่ายงบประมาณทุกอย่างให้คุ้มค่าให้เกิดความสมดุลเพื่อแก้ปัญหาในทุกมิติโดยเดินไปพร้อมกัน
ทั้งนี้ เราต้องคำนึงถึงที่มาของรายได้ รัฐบาลเป็นห่วงเป็นใยทุกคนทุกกลุ่มทุกฝ่าย ทำอย่างไรให้เกิดความเป็นธรรมในการใช้จ่ายงบประมาณที่ได้มาจากภาษีของประชาชนให้เกิดความสมดุลและเป็นธรรม ดังนั้น ต้องใช้อย่างระมัดระวังให้มากที่สุด รัฐบาลวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศไปสู่อนาคตเราต้องพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางไปสู่รายได้สูงให้เร็วที่สุดเพื่อดูแลเกิดความเป็นธรรมกับผู้มีรายได้น้อยซึ่งต้องทยอยดำเนินการ
“มี 2 คำที่ผมใช้อยู่เสมอ คือ ความเท่าเทียมด้านโอกาส และเท่าเทียมด้านกฎหมาย จึงขอเน้นย้ำจะทำอะไรก็ตาม ต้องไม่สร้างภาระระยะยาว จะต้องทำอย่างระมัดระวัง ดำเนินการภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังอย่างเหมาะสม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การใช้จ่ายภาครัฐในปีงบประมาณ 2567 ยังคงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติและแผนต่าง ๆ ให้บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนด รวมทั้งเร่งเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล การยกระดับฝีมือแรงงาน การสนับสนุนการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว การส่งเสริมเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG) รวมถึงการจัดสวัสดิการให้แก่คนไทยทุกกลุ่มอย่างเหมาะสม โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบางเป็นลำดับแรกภายใต้กรอบวงเงินจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 วงเงิน 3.35 ล้านล้านบาท และงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ วงเงินประมาณ 5.05 แสนล้านบาท
“ถ้าเราใช้งบประมาณที่ถูกต้องคุ้มค่าสุจริตโปร่งใสและเป็นธรรมตรวจสอบได้ ถือหลักการของผมในฐานะนายกรัฐมนตรี หัวหน้ารัฐบาลฉะนั้นจะต้องไม่มีการทุจริตถ้ามีก็ต้องถูกลงโทษผมไม่เคยละเว้นใครทั้งสิ้น ขอให้ช่วยกันให้เรียบร้อยทุกเรื่อง อย่าให้เกิดความแตกแยก ชิงชัง ผมไม่ต้องการแบบนั้นบ้านเมืองไปกันไม่ได้ เราใช้กลไกที่มีอยู่แล้วเดิมแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้ได้ ขอบคุณทุกคนที่ฟัง คำพูดของตนอาจไม่น่าฟังมากนัก แต่ทั้งหมดนี้คือจิตใจของผม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวมอบนโยบาย นายกรัฐมนตรีมีอาการ คอแห้ง เสียงกายไปในลำคอ พูดเสียงไม่ออก รวมไปถึงมีอาการไอเป็นระยะ พล.อ.ประยุทธ์ ถึงกับกล่าวว่า “พูดเยอะ” ก่อนจะหยุดหันไปดื่มน้ำ
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ ไม่สบายหรือไม่ เห็นว่าเจ็บคอ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็ทำงานเยอะและหนัก” ทั้งนี้ ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับนายสุชาติ ว่าไม่ได้ป่วย แต่เป็นเพราะพูดติดกันหลายงาน จึงทำให้มีอาการดังกล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘บิ๊กตู่’ ไม่สนองครักษ์พิทักษ์นายกฯ ลั่น ส.ส. ต้องยึดบ้านเมืองเป็นหลัก
- ‘บิ๊กตู่’ โว! รัฐบาลเดินหน้าถูกทาง คาด GDP ปี 68 โตพุ่ง 20 ล้านล้านบาท!
- ‘บิ๊กตู่’ สมัครสมาชิก ‘รวมไทยสร้างชาติ’ แล้ว พูดชัดทำไมมายืนตรงนี้…วันนี้!