สธ. พร้อมดูแลสุขภาพ ‘ผู้นำเอเปค’ 5 ด้าน เข้มงวดความปลอดภัยสูงสุด และดูแลประชาชน เจ็บป่วยฉุกเฉิน 24 ชม.
วันนี้ (12 พฤศจิกายน 2565) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข สำหรับการประชุมสัปดาห์ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ระหว่างวันที่ 14-19 พฤศจิกายน 2565 ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบนโยบายการดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข
ดูแลสุขภาพ เน้นความปลอดภัยสูงสุด
โดยย้ำว่าจะต้องมีความปลอดภัยสูงสุด และเป็นไปตามหลักวิชาการ ทั้งด้านการป้องกัน ส่งเสริมสุขภาพ ดูแลสุขภาพจิต การรักษาและการส่งต่อ
โดยทีมบุคลากรจะปฏิบัติภารกิจอย่างเข้มงวด และเป็นไปด้วยความเคารพคณะผู้นำเขตเศรษฐกิจทั้ง 21 เขต เพื่อดูแลความปลอดภัยทางการแพทย์ และสร้างความประทับใจให้แก่ผู้นำเขตเศรษฐกิจ
เนื่องจากการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมครั้งนี้ ถือเป็นวาระสำคัญที่จะสร้างความโดดเด่นให้กับประเทศไทย ในการนำเสนอภาพรวมของประเทศ ภายหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ซึ่งจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่ดี และยังส่งผลในเชิงเศรษฐกิจ รวมถึงบทบาทของประเทศไทยในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ
นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข ในการประชุมสัปดาห์ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข ให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้นำเขตเศรษฐกิจทั้ง 21 เขต
โดยบูรณาการหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ กรมการแพทย์ กรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสุขภาพจิต กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมแพทย์ทหารอากาศ กรมแพทย์ทหารบก ตำรวจ กรุงเทพมหานคร มหาวิทยาลัย หน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่โดยรอบ และโรงพยาบาลเอกชน
แบ่งการดูแล 5 ด้าน ดังนี้
- จัดทีมปฏิบัติการด้านการแพทย์ฯ ติดตามขบวนผู้นำเขตเศรษฐกิจ โรงแรมที่พัก ประจำ ณ สถานที่จัดประชุม และสถานที่จัดเลี้ยง Gala Dinner
- การรักษาพยาบาลและการส่งต่อ จัดเตรียมทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ โดยบูรณาการร่วมกับกรมการแพทย์และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ทั้งนนทบุรี ปทุมธานี และพระนครศรีอยุธยา รพ.ตำรวจ รพ.ศิริราช และรพ.เอกชน ระดมทีมทำงานซึ่งผ่านประสบการณ์และการฝึกอบรมเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัย และการส่งต่อคณะผู้นำต่างๆ ในการจัดประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขเอ เปค ครั้งที่ผ่านมา
- การเฝ้าระวังและควบคุมโรคติดต่อ โดยเฉพาะเรื่องของโรคอาหารเป็นพิษและโรคโควิด 19 ซึ่งแม้สถานการณ์โรคโควิด 19 จะดีขึ้น แต่ยังมีผู้ติดเชื้อทั่วโลกจึงยังต้องให้ความสำคัญ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งผู้เข้าร่วมประชุมและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
- การดูแลความปลอดภัยของอาหาร โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะมีการตรวจสอบสารพิษในอาหาร สารตกค้างต่างๆ ส่วนกรมอนามัยและกรุงเทพมหานครจะกำกับดูแลผู้ประกอบการอาหาร ทั้งผู้ปรุง ผู้สัมผัสอาหาร และผู้ให้บริการ ให้เป็นไปตามหลักสุขาภิบาลอาหาร
- การดูแลเรื่องสุขภาพจิตของผู้ทำงานและคณะติดตามต่างๆ
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการดูแลคู่สมรสของคณะผู้นำที่จะไปศึกษาดูงานในต่างจังหวัด โดยจัดทีมปฏิบัติการด้านการแพทย์ฯ ติดตามและประจำที่สถานที่ศึกษาดูงาน
วันหยุด แต่ไม่หยุดดูแลประชาชน
ส่วนการดูแลรักษาพยาบาลประชาชนทั่วไป เนื่องจากช่วงการประชุมสัปดาห์ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค รัฐบาลกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการ ได้กำชับโรงพยาบาลในสังกัดให้พยายามจัดบริการประชาชนให้ได้รับความสะดวกสบาย ลดผลกระทบให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด เช่น การจัดคลินิกเสริมนอกเวลา การจัดการดูแลรักษาแบบออนไลน์ เป็นต้น
ทั้งนี้ หากประชาชนเกิดการเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถเข้ารับการรักษาได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือโทรศัพท์สายด่วน 1669 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ศธ. ประกาศ ปิดเรียน 3 วัน ใน 3 จังหวัด 16-18 พ.ย. ช่วงประชุมเอ เปค
- กทม. ประกาศ ‘ปิดสวนเบญจกิติ’ เป็นการชั่วคราว 14-20 พ.ย. เตรียมความพร้อมเอ เปค
- รับเอ เปค ขสมก. ปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินรถเมล์ 14 สาย สายไหนบ้าง เช็กที่นี่!