“โฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง” รับคนแน่นสนามบินสุวรรณภูมิ นักท่องเที่ยวแห่เข้าไทยชั่วโมงละ 3,000-4,000 คน หนาแน่นสุดช่วง 14.00-16.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีปรากฎภาพผู้โดยสารจำนวนมากยืนต่อแถวบริเวณจุดรอเข้ารับการตรวจหนังสือเดินทางขาเข้า ด่าน ตม. สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมข้อความระบุว่า “สุวรรณภูมิแตก!!! นักท่องเที่ยวต่างชาติแห่เข้าไทย บรรยากาศล่าสุดจาก ตม.สุวรรณภูมิ นักท่องเที่ยวจากนานาประเทศไหลมาเทมาหนาแน่น ดูแล้วอบอุ่นหัวใจยิ่งนัก”
ผู้โดยสารเฉลี่ยชั่วโมงละ 3,000-4,000 คน
โดยล่าสุด พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ศท.ตม. ในฐานะโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่า ภาพดังกล่าวเป็นภาพผู้โดยสารกำลังรอรับการตรวจหนังสือเดินทางขาเข้าด่าน ตม.สนามบินสุวรรณภูมิจริง โดยได้รับข้อมูลจาก ตม.ขาเข้า ว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม 2565 ช่วงเวลา 13.00-17.00 น. ซึ่งมีเที่ยวบินลงถึง 76 เที่ยวบิน หรือชั่วโมงละประมาณ 20 เที่ยวบิน ผู้โดยสารเฉลี่ยชั่วโมงละ 3,000-4,000 คน หนาแน่นสุดคือช่วง 14.00-16.00 น.
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม.ให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกในการตรวจหนังสือเดินทางภายใต้หลักความมั่นคง นับตั้งแต่รัฐบาลเปิดประเทศ เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2564 บก.ตม.2 ในฐานะที่รับผิดชอบด่าน ตม.สนามบินหลักได้มีมาตรการรับสถานการณ์ที่สำคัญ ได้แก่ จัดกำลังพลรองรับผู้โดยสารในชั่วโมงหนาแน่น ให้นั่งเต็มทุกช่องตรวจ โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขยายช่องตรวจจาก 92 ช่อง เป็น 119 ช่อง
สัญญาณทางเศรษฐกิจที่ดี
ขณะเดียวกันได้มีการเสริมกำลังพลที่ขาดแคลน นับแต่ 2 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งคาดว่าจะสามารถตรวจอนุญาตผู้โดยสารประมาณ 6,500 คนต่อชั่วโมง โดยไม่กระทบความมั่นคง และขอรับการสนับสนุนจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจัดพนักงานผู้ช่วย Airport help ช่วยแนะนำ จัดแถวผู้โดยสาร พร้อมกับเตรียมจัดเรียงเอกสารพร้อมรับการตรวจ
สำหรับมาตรการต่าง ๆ นี้เป็นไปตามข้อกำชับและนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ สตม.พร้อมสนับสนุนการลงทุนและการท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อเร่งฟื้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล ปัจจุบันต่างชาติเดินทางเข้าประเทศทั้งทางอากาศและทางบกเฉลี่ยวันละประมาณ 45,000-50,000 คน และมีแนวโน้มสูงขึ้น ถือเป็นสัญญาณทางเศรษฐกิจที่ดีของประเทศไทย หลังสถานการณ์โควิด
จัดกำลังพลรองรับสถานการณ์
ด้าน พล.ต.ต.มนตรี ปานเจริญ ผบก.ตม.2 สั่งการให้ พ.ต.อ.หญิง รุ่งทิพย์ เข็มทอง ผกก.ฝ่าย ตม.ขาเข้าฯ จัดกำลังพลรองรับสถานการณ์ดังกล่าวเต็มกำลังทุกช่องตรวจจนสามารถระบายผู้โดยสารให้เข้ารับการตรวจเฉลี่ยอย่างช้าไม่เกิน 1 ชั่วโมง โดยตรวจเข้มหนังสือเดินทาง วีซ่า และเก็บข้อมูลบุคคลด้วย Biometric และเปรียบเทียบข้อมูล Blacklist ใช้เวลาเฉลี่ยไม่เกิน 45 วินาทีต่อคน ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม.ต้องระมัดระวังบุคคลต่างชาติแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเข้ามากระทำผิด โดยเฉพาะกลุ่มคอลเซนเตอร์ หรือก่อเหตุความวุ่นวายในช่วงเอเปค
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- แจ้งปรับทิศทาง ‘วิ่งขึ้นและร่อนลง’ ของเครื่องบิน สนามบินสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง ช่วงฤดูหนาว
- ผอ.สุวรรณภูมิ ชี้ล็อกล้อรถหรูเป็นคู่หนุ่มสาว ไม่ใช่คนพิการ จอดไว้ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ
- เริ่มวันนี้! สุวรรณภูมิเปิดใช้งานระบบ PVS ตรวจสอบยืนยันตัวตน ผู้โดยสารขาออก