แนวโน้มฝุ่น ‘PM 2.5’ เพิ่มขึ้น แนะตรวจสอบคุณภาพอากาศ ผ่าน Air4Thai มีโรคประจำตัว ให้สำรองยา-อุปกรณ์ที่จำเป็น
วันนี้ (19 ตุลาคม 2565) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้หลายพื้นที่มีรายงานค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมโครกรัม หรือฝุ่น PM 2.5 เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม.
แนะตรวจคุณภาพอากาศ ผ่าน Air4Thai
วันนี้พบค่าฝุ่นในระดับสีส้ม คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพหลายพื้นที่ ดังนั้น ขอให้ประชาชนตรวจสอบสถานการณ์ฝุ่นก่อนออกนอกบ้านจากเว็บไซต์ air4thai.pcd.go.th หรือแอปพลิเคชัน “Air4Thai” ของกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งจะระบุค่าดัชนีคุณภาพอากาศ
พร้อมระดับสี และคำแนะนำในการปฏิบัติตัว ดังนี้
- สีฟ้า ค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ที่ 0-25 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีมาก เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งและการท่องเที่ยว, สีเขียว 26-37 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศระดับดี สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งและการท่องเที่ยวได้ตามปกติ, สีเหลือง 38-50 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศระดับปานกลาง ประชาชนทั่วไปสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ ส่วนผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง
- สีส้ม 51-90 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนทั่วไป ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ส่วนผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ เช่น ไอ หายใจลำบาก ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นไม่เป็นปกติ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ควรปรึกษาแพทย์
- ส่วนสีแดง ค่าฝุ่น PM 2.5 ตั้งแต่ 91 มคก./ลบ.ม.ขึ้นไป คุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ทุกคนควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น และหากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์
มีโรคประจำตัว สำรองยาและอุปกรณ์จำเป็น
นอกจากนี้ ขอให้ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาดมากๆ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผัก ผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ทำความสะอาดบ้าน และอุปกรณ์ภายในบ้าน
หากค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน ควรหลีกเลี่ยงการออกไปทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรสำรองยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และควรช่วยกันลดการสร้างมลพิษทางอากาศ เช่น การใช้เตาถ่าน การจุดธูปเทียน การเผาขยะ เป็นต้น
อ่านขาวเพิ่มเติม
- กทม. รับมือ ‘PM2.5’ จัดทีม ‘นักสืบฝุ่น’ หาต้นตอ พร้อมทำแผนเผชิญเหตุปี 66
- กทม. ตั้งเป้า ‘เผาเป็นศูนย์’ ประสาน ‘ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์’ และจังหวัดข้างเคียง แก้ปัญหาฝุ่น PM2.5
- ปีหน้า กทม.ปรับใหม่ ‘เกณฑ์มาตรฐานค่าฝุ่นละออง’ ห้ามรถบรรทุกวิ่ง ปิดโรงเรียน พื้นที่วิกฤต PM2.5