“ดีเอสไอ” แถลงจับรถหรูถูกโจรกรรมข้ามชาติ หลังอังกฤษขอความร่วมมือ เผยตามได้แล้ว 26 จาก 35 คัน เร่งสืบจัดการผู้ร่วมขบวนการทุกคน เตือนผู้ครอบครองอีก 9 คัน
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกันแถลงข่าวผลการปฎิบัติการ “ไทเทเนียม”
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ดีเอสไอได้สืบสวนติดตามยึดคืนรถยนต์หรูที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษจำนวน 26 คัน หลังได้รับการประสานจากทางการอังกฤษ ให้ช่วยติดตามรถยนต์ราคาแพง จำนวนทั้งหมด 35 คัน ที่ถูกโจรกรรมมาขายในโชว์รูมประเทศไทย โดยมีการทำเอกสารปลอม แจ้งสำแดงเท็จ ระบุว่าเป็นรถยนต์ใหม่สำเร็จรูป สืบเนื่องจากเมื่อปี 2560 กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับคำร้องขอความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา (MLAT) จากหน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมแห่งชาติ ของสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ ประจำกรุงเทพมหานคร ขอให้ทำการสืบสวนสอบสวนกรณีขบวนการโจรกรรมรถยนต์หรู จากประเทศอังกฤษจำนวน 35 คัน รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเมื่อนำมาขายในประเทศไทยจะมีราคาสูงขึ้น 3 เท่าหรือ 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นการนำเข้ามาในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ซึ่งต่อมากรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับไว้เป็นคดีพิเศษที่ 78/2561ตั้งแต่ปี 2561
ด้านอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษกล่าวว่า จากการสืบสวนติดตามพบว่า รถยนต์ทั้ง 35 คัน ที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษ ได้ทะยอยขนส่ง โดยเครื่องบินมายังประเทศสิงคโปร์ จากนั้นได้นำขึ้นเรือนำเข้ามายังประเทศไทย ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2559 ถึง มีนาคม 2560 มีการสำแดงหลักฐานเป็นรถมือหนึ่ง โดยปลอมแปลงเอกสารนำเข้าทั้งหมด เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ศุลกากร
ต่อมาดีเอสไอขยายผลตรวจค้นและยึดคืนรถยนต์จากโชว์รูมหลายแห่งในประเทศไทย ที่สามารถยึดรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมจากอังกฤษแล้วนำเข้ามาในประเทศไทยได้ได้ติดตามรถยนต์มาได้ 26 คัน อยู่ในความครอบครองของเจ้าของที่ซื้อมา โดยไม่รู้ว่ารถตัวเองเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมา ส่วนที่เหลืออีก 9 คันนั้น ทางพนักงานสอบสวนดีเอสไอได้แจ้งให้ผู้ครอบครองรถทราบตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม 2565 แล้วว่ารถถูกโจรกรรมมาและให้คืนรถของกลาง แต่เจ้าของยังไม่ยอมคืนรถให้ ซึ่งติดตามทราบทะเบียนรถแล้ว 8 คัน ขณะที่ผู้ครอบครองอีกอีก 1 คันไม่สามารถติดต่อได้ อย่างไรก็ตาม หากไม่ส่งรถคืนจะต้องมีความผิดตามกฎหมายอาญาฐานรับของโจร ส่วนเจ้าของโชว์รูมนั้น ดีเอสไออยู่ระหว่างการพิจารณาความผิด
พ.ต.ท.พเยาว์ กล่าวว่า เครือข่ายดังกล่าวหน่วยข่าวกรองอาชญากรรมยานยนต์แห่งชาติ สหราชอาณาจักร พบว่าระหว่างปี พ.ศ. 2559 ถึง 2560 มีกลุ่มคนไทยที่มีโชว์รูมจำหน่ายรถหรูร่วมมือกับกลุ่มคนต่างชาติในอังกฤษ เป็นขบวนการโจรกรรมรถยนต์ราคาสูงในอังกฤษ โดยจะมีเครือข่ายกลุ่มหนึ่งเป็นผู้ติดต่อทำสัญญาเช่าซื้อ หรือเช่ารถยนต์ ระยะสั้น แล้วนำไปส่งมอบให้กับเครือข่ายอีกกลุ่มหนึ่ง ทำหน้าที่ในการจัดทำเอกสารเท็จหรือปลอม อาทิ ใบตราส่งสินค้า /ใบแจ้งหนี้ หลังจากนั้นรถยนต์จะถูกส่งออกจากอังกฤษทางเครื่องบินจากสนามบินฮีทโธรว์ ไปยังประเทศสิงคโปร์ แล้วขนส่งทางเรือจากประเทศสิงคโปร์เข้ามายังประเทศไทย จำนวน 35 คันและรถทุกคันมีการทำเอกสารเท็จเพื่อใช้ประกอบในการนำเข้าและชำระภาษีอากรต่อกรมศุลกากรโดยสำแดงเท็จ ระบุว่าเป็นรถยนต์ใหม่สำเร็จรูป ก่อนกระจายให้กับโชว์รูมจำหน่ายรถยนต์หรูในประเทศไทย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
