“หมอนิธิพัฒน์” ห่วงเยาวชนไทย กฏหมายคุมกัญชาล่าช้า ผสมในอาหาร-ขนม เด็กรับพิษกัญชาเข้าโรงพยาบาลยอดพุ่ง
รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก นิธิพัฒน์ เจียรกุล ห่วงเยาวชนไทย บริโภคอาหาร-ขนมผสมกัญชา ในช่วงสุญญากาศไร้กฏหมายควบคุม โดยระบุว่า
แรงอธิษฐานได้ผลจริง ยอดผู้ป่วยหนักวันนี้ลงต่ำกว่า 700 ได้แล้วโดยมาอยู่ที่ 694 ถ้าเป็นเช่นนี้ต่ออีกไม่กี่วันยอดเสียชีวิตจะต่ำกว่า 20
ที่น่าดีใจต่อคือยอดติดเชื้อในระบบตรวจ ATK ด้วยตัวเองนอกโรงพยาบาลของสัปดาห์ก่อน ลดลงอีกราวสี่หมื่นจนเหลือ 131,139 คน
นั่นหมายความว่ายอดผู้ติดเชื้อ/ป่วยจริงทั้งประเทศ ลดลงจากจุดสูงสุดช่วงหลังสงกรานต์ ที่อาจถึงวันละหนึ่งแสนห้าหมื่นคน มาเหลือราวไม่เกินสามหมื่นคนในปัจจุบัน
แต่อย่าเพิ่งวางใจ ช่วยกันควบคุมต่อจนเหลือไม่เกินหนึ่งหมื่นคนต่อวันให้ได้
พิษของกัญชาต่อเยาวชน จากการบริโภคอาหารและขนมที่มีส่วนผสมโดยไม่ตั้งใจ เป็นปัญหาที่ประเทศเปิดกัญชาเสรี เช่น แคนาดา ประสบต่อเนื่องกันมาหลายปี หลังผ่านกฎหมายซึ่งภาคการแพทย์ที่นั่นคิดว่าเป็นเรื่องน่าอัปยศ
แต่ยังมีรัฐบาลท้องถิ่นในบางจังหวัด เช่น ควีเบค ที่ยังคงยืนยันจะพยายามสุดตัวเพื่อควบคุมการนำกัญชาไปผสมในเครื่องบริโภค
ทีมนักวิจัยจากแคนาดาทำการศึกษาข้อมูลเด็กอายุต่ำกว่า 9 ปี ที่ต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะพิษของกัญชาจากการกินอาหารหรือขนม ก่อนและหลังการเปิดเสรีผสมกัญชาในของกินได้ โดยเปรียบเทียบระหว่างสามจังหวัดที่อนุญาตกับหนึ่งจังหวัดที่ห้าม ในตลอด 7 ปีที่รวบรวมข้อมูล เกิดเหตุทั้งหมด 581 ครั้ง
ก่อนเปิดเสรี อัตราการเข้าโรงพยาบาลของเหล่าเด็กน้อย ไม่ต่างกันระหว่างจังหวัดที่อนุญาตหรือห้าม แต่เมื่อเริ่มเปิดเสรีกัญชาทั่วไปในระยะแรก อัตราเริ่มเพิ่มขึ้นไป 2.6 เท่า
แต่พอเคาะในระยะที่สอง ให้ใส่ในอาหารและขนมได้ ยอดพุ่งกระฉูดไปอีกสามเท่าตัว คือเป็น 7.5 เท่า เมื่อเทียบกับก่อนทำให้ถูกกฎหมายในทุกกรณี โดยจังหวัดที่อนุญาตมียอดเด็กเข้าโรงพยาบาลก่อนและหลังปลดล็อคต่างกัน 3 เท่า แต่จังหวัดที่ห้ามผลปรากฏว่ายอดแทบไม่ต่างกัน
ข้อเสนอของคณะผู้นิพนธ์คือ หากไม่สามารถห้ามได้ ต้องกำหนดให้มีสาร THC ได้ไม่เกิน 10 มิลลิกรัมต่ออาหารหรือขนมหนึ่งชิ้น ควบคู่ไปกับต้องให้การศึกษาประชาชนได้รู้จักแยกแยะผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบได้ ดังรูปตัวอย่างในบ้านเรา
และให้มีวัสดุห่อหุ้มผลิตภัณฑ์ที่แข็งแรงเพียงพอเพื่อไม่ให้เด็กเล็กไปฉีกกินเองได้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ https://www.nejm.org/doi/pdf/10.1056/NEJMc2207661…
ข่าวเด็กทั้งที่รู้และไม่รู้อิโหน่อิเหน่ กินอาหารหรือขนมที่ผสมกัญชา แล้วมีผลข้างเคียงจนต้องเข้าโรงพยาบาลในบ้านเรา มีเผยแพร่ในทุกช่องทางมาตลอดต่อเนื่อง นับจากเริ่มกระบวนการปลดล็อคกัญชานับแต่ต้นปีนี้
แต่ไม่รู้การเก็บสถิติของกระทรวงหมอที่เจ้ากระทรวงนำไปอ้าง ทำไมมันน้อยจัง นี่เราปล่อยให้ใช้กันเกร่อแล้วค่อยร่างระเบียบควบคุมกัญชาตามหลัง ซึ่งป่านนี้ก็ยังไม่คลอด เป็นภาวะสุญญากาศที่ต้องเซ่นสังเวยด้วยสุขภาพเยาวชนของชาติอีกกี่รายไม่รู้
ขนาดประเทศที่เข้มงวดบังคับใช้กฏหมายอย่างแคนาดาเขายังเอาไม่อยู่ จนเหล่าหมอของเขาต้องออกมา call out แทนเด็กและผู้ปกครอง
บ้านเราที่รู้กันดีว่าผู้คุ้มกฏมักหย่อนยาน แถมบางทีไปมีส่วนหรือรู้เห็นการละเมิดกฏเองเสียด้วยซ้ำ สงสารเยาวชนของชาติบางส่วนที่ต้องตกเป็นเหยื่อความละโมบของผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี
หลวงพ่อคูณ ท่านเคยสูบบุหรี่มวนโตจนผู้คนสมัยก่อนเห็นกันชินชา เมื่อเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
ท่านยอมตามคำขอคณะแพทย์บ้านริมน้ำให้เลิกขาด แถมท่านช่วยเป็นพรีเซ็นเตอร์การรณรงค์สังคมให้เลิกบุหรี่ในช่วงนั้นด้วย
เมื่อครั้งท่านอาพาธอีกครั้งจากโรคหลอดเลือดสมอง และผมได้มีโอกาสร่วมถวายการดูแลรักษา ดังรูป เคยเรียนถามว่าทำไมตอนนั้นท่านจึงตัดใจเลิกบุหรี่ทั้งที่สูบมาแต่วัยเยาว์
ท่านตอบแบบน่ารักตามประสาที่คุ้นเคย ลูกหลานเอ๊ย อะไรที่มันทำร้ายตัวกู กูก็ไม่เอามันไว้ดอก
ท่านละสังขารจากพวกเราไปกว่าสิบปีแล้ว จะไม่เอาคำท่านสอนมาปรับใช้ เพื่อปกป้องลูกหลานของเราจากกัญชาและบุหรี่กันดอกหรือ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เตรียมพร้อมหลังยุคโควิด-19 ‘หมอนิธิพัฒน์’ แนะใช้เครื่องฟอกอากาศ ติดตั้ง HEPA filter
- อย่าเชื่อ!! อ้างขายเมล็ดพันธุ์กัญชา ขึ้นทะเบียนจากกรมวิทย์ฯแล้ว ยันไม่ขาย ไม่แจก
- กรมอนามัย ย้ำ พบ ‘สูบกัญ ชาในที่สาธารณะ’ ดำเนินการตาม ‘ขั้นตอนของกฎหมาย’ ได้ทันที
