General

รวมไว้ที่นี่!! สิทธิประโยชน์ ‘บัตรทอง 30 บาท’ ครอบคลุม-ไม่ครอบคลุมอะไรบ้าง

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ย้ำชัด “บัตรทอง 30 บาท” มีสิทธิประโยชน์ ครอบคลุม-ไม่ครอบคลุมอะไรบ้าง เช็คได้ที่นี่

วราภรณ์ สุวรรณเวลา ผู้ช่วยเลขา สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยในงานเสวนา เรื่อง สิทธิบัตรทอง 30 บาท ครอบคลุมอะไรบ้าง ว่า ประเด็นหลักๆของความหมายสิทธิประโยชน์ คือ 1. ประเภทและขอบเขตบริการสาธารณสุข 2. วิธีการไปใช้บริการ 3. เรื่องการเบิกจ่าย ซึ่งทั้ง 3 ส่วนนี้ จะทำให้ประชาชนที่ไปรับสิทธิ์ใช้บริการได้อย่างสะดวกและตามที่กองทุนฯกำหนดไว้

บัตรทอง 30 บาท

สำหรับสิทธิประโยชน์ภายใต้บัตรทอง กฎหมายจะกำหนดพระราชฉับัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 มาตรา 3 โดยกำหนดคำว่า ค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข ดังนี้

1. ค่าบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค

2. ค่าตรวจและรับฝากครรภ์

3. ค่าตรวจวินิจฉัยโรค

4. ค่าบำบัดและการบริการทางการแพทย์

5. ค่ายาเวชภัณฑ์อวัยวะเทียมและอุปกรณ์ทางการแพทย์

6. ค่าทำคลอด

7. ค่ากินอยู่ในหน่วยบริการ

8. ค่าบริบาลทารกแรกเกิด

ครอบคลุม

9. ค่ารถพยาบาลหรือ ค่าพาหนะรับส่งผู้ป่วย

10. ค่าพาหนะรับส่งผู้ทุพพลภาพ

11. ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและจิตใจ

12. ค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็นเพื่อการบริการสาธารณสุขตามที่คณะกรรมการกำหนด

นอกจากนี้สิ่งที่เพิ่มเข้ามา หลังจากราชกิจจานุเบกษาประกาศ เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2565 เรื่องประเภทและขอบเขตของบริการรักษาสุขภาพ พ.ศ. 2564 ซึ่งเป็นปรับปรุงประกาศโดยจะมีเพิ่มเข้ามา อย่างเช่น

1. บริการสาธารณสุขด้านการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือกตามกฏหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะ

2. บำบัดรักษาฟื้นฟูผู้ติดยาและสารเสพติดยกเว้นการดำเนินการตามกฏหมายว่าด้วยยาเสพติดที่มีกำหนดเกี่ยวกับการให้บริการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด

สปสช.
วราภรณ์ สุวรรณเวลา

ล่าสุดในปี 2565 ที่เพิ่มบริการเข้ามา อาทิเช่น การตรวจมะเร็งช่องปาก การตรวจคัดกรองทาลัสสิเมียในคู่ของหญิงตั้งครรภ์ การบริการผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่ที่ติดบ้านติดเตียง การตรวจคัดกรองการได้ยินในทารกแรกเกิด เป็นต้น

สิ่งที่ไม่ครอบคลุม เบิกไม่ได้

1. เพื่อความสวยงามโดยไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์

2. การตรวจวินิจฉัย และการรักษาที่เกินความจำเป็นจากข้อบ่งชี้ทางการแพทย์

3. การรักษาที่อยู่ระหว่างการค้นคว้าทดลอง

4. การปลูกถ่ายอวัยวะ ที่ไม่ปรากฎตามบัญชีแนบท้าย

5. การบริการทางการแพทย์อื่น ตามที่บอร์ด สปสช. กำหนด

ไม่ครอบคลุม

สำหรับสิทธิประโยชน์บัตรทองที่แตกต่างจากสิทธิประโยชน์ฉบับเดิม ตรงที่ไม่ครอบคลุมสิทธิประโยชน์รักษาภาวะมีบุตรยากและการผสมเทียม แต่ขยายครอบคลุมในการรักษาโรคที่ต้องใช้ระยะเวลารักษาตัวในโรงพยาบาลประเภทผู้ป่วยใน โดยไม่มีกำหนดเวลา ว่าต้องเกินกว่า 180 วันอีกแล้ว

ส่วนการใช้สิทธิบัตรทองใหม่ ประชาชนสามารถเข้ารักษาที่สถานพยาบาลที่ลงทะเบียนไว้ได้ และกรณีมีความจำเป็นก็สามารถเข้ารักษาที่หน่วยบริการปฐมภูมิอื่น ๆ ได้ โดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว และไม่ถูกเรียกเก็บเงินเหมือนเดิม

หน่วยบริการปฐมภูมิ นั้น คือ บริการสุขภาพด่านแรกขอระบบบริการสาธารณสุข ซึ่งมีบทบาทในการดูแลสุขภาพประชาชนในท้องถิ่น โดยเน้นการป้องกันไม่ให้ป่วย หากเจ็บป่วยจะได้รับการดูแลรักษาเบื้องต้น และครอบคลุมในกรณีที่จำเป็นจะต้องส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลที่รักษาโรคซับซ้อนมากขึ้น ทั้งนี้รวมถึงบริการฟื้นฟูสุขภาพด้วย

ตัวอย่างเช่น สถานีอนามัย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.), หน่วยบริการปฐมภูมิของโรงพยาบาล, ศูนย์สุขภาพชุมชน, ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. ทั้ง 69 แห่ง คลินิกเอกชนในระบบบัตรทอง และคลินิกอบอุ่น เป็นต้น

วิธีการใช้สิทธิบัตรทองได้ดังนี้

1. ติดต่อที่หน่วยบริการปฐมภูมิที่เข้ารับการรักษา

2. แจ้งความจำนงใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพก่อนรับบริการ

3. แสดงบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่ายที่ทางราชการออกให้ สำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี แสดงสำเนาสูติบัตร (ใบเกิด)

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo