กรมควบคุมโรค เผยผลสอบสวนโรค ผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง ภูเก็ต พบผู้สัมผัสรวม 142 คน มีไข้ไอเจ็บคอ 6 คน ผลตรวจยังไม่พบติดเชื้อ สังเกตอาการ 21 วัน
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากกรณีพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง คนแรกในประเทศไทย ที่ จ.ภูเก็ต เป็นชาวไนจีเรีย อายุ 27 ปี มีตุ่มหนองที่อวัยวะเพศ ใบหน้า ลำตัว แขนขา เมื่อมีผลตรวจยืนยันติดเชื้อ
ทีมสอบสวนโรคได้ลงพื้นที่สอบสวนโรคและค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง กลุ่มผู้ใกล้ชิดพบ 2 คน เป็นเพื่อนกับผู้ป่วย ยังไม่มีอาการป่วย ผลตรวจในห้องแล็บยังไม่พบเชื้อฝีดาษวานร ขณะนี้อยู่ระหว่างสังเกตอาการ 21 วัน
ทั้งนี้ จากการค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติมจากสถานบันเทิง 2 แห่ง ที่ผู้ป่วยเคยไปใช้บริการ มีผู้สัมผัสรวม 142 คน พบผู้มีอาการไข้ เจ็บคอ 6 คน ผลตรวจในห้องแล็บ 4 คน ไม่พบการติดเชื้อฝีดาษวานร ให้ติดตามสังเกตอาการ 21 วัน
นอกจากนี้ ให้เร่งค้นหาผู้สัมผัสในโรงแรม และสถานบันเทิงแห่งอื่นเพิ่มเติม รวมทั้งกำจัดเชื้อภายในห้องพักคอนโดมิเนียมของผู้ป่วย และให้คำแนะนำการปฏิบัติตัว
นพ.โอภาส กล่าวว่า ขณะนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังไม่ประกาศให้โรคฝีดาษลิง เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข พบผู้ป่วย 12,608 คน ใน 66 ประเทศทั่วโลก ส่วนใหญ่อยู่ในยุโรป
สำหรับประเทศไทย ประกาศให้โรคฝีดาษวานร เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากความรุนแรงไม่มากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับโรคโควิด-19 โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ติดเชื้อจากการสัมผัสใกล้ชิด ส่วนใหญ่พบผู้ป่วยเป็นเพศชาย
WHO ยังแนะนำให้ประเมินความเสี่ยงเกี่ยวกับกิจกรรมรวมกลุ่ม และขอให้สถานพยาบาลรวบรวมข้อมูลผู้ป่วยสงสัยหรือมีผลตรวจยืนยันติดเชื้อ โดยโรคนี้มี 2 สายพันธุ์หลัก คือแอฟริกาตะวันตก กับแอฟริกากลาง โดยผู้ป่วยที่พบในไทย เป็นสายพันธุ์แอฟริกาตะวันตก ซึ่งความรุนแรงน้อยกว่า
สำหรับมาตรการที่ใช้เฝ้าระวังโควิด-19 สามารถใช้ป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ คือหลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกัน เลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีตุ่มหนอง และขอความร่วมมือไม่ให้ตีตราหรืดลดทอนคุณค่า กลุ่มประชากรโดยเฉพาะกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับเพศชาย
ปัจจุบัน โรคฝีดาษยังไม่มียาต้านไวรัสโดยตรง วัคซีนมีหลายบริษัท เบื้องต้นทางการไทยได้สั่งจองวัคซีนไปแล้ว รวมถึงวัคซีนโรคฝีดาษ ที่องค์การเภสัชกรรมเก็บไว้ อาจนำมาใช้ได้ แต่ต้องดูประสิทธิภาพวัคซีน ผลข้างเคียงจากวัคซีน ร่วมกับสถานการณ์ระบาด
ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเป็นวงกว้าง อาจจำเป็นกับบุคลากรสาธารณสุขที่ต้องดูแลผู้ติดเชื้อ หรือผู้ปฏิบัติการในห้องแล็บ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิดข้อสังเกต ‘อาการฝีดาษลิง’ วิธีป้องกัน หลังพบติดเชื้อรายแรกในไทย
- นายกฯ ย้ำ ค้นหาผู้ป่วย ‘ฝีดาษลิง’ เพิ่มเติม หลังพบในไทย พร้อมประเมินความเสี่ยงแพร่เชื้อ
- ด่วน! ไทยพบ ‘ฝีดาษลิง’ รายแรกที่ภูเก็ต เป็นชายชาวไนจีเรีย
