เฝ้าระวังด่วน หลังพบฝีดาษลิงรายแรกในไทย เปิดที่มาของโรค แนะวิธีสังเกตอาการฝีดาษลิง พร้อมวิธีป้องกัน อ่านรายละเอียดที่นี่
วานนี้ (21 ก.ค. 2565) ประเทศไทยพบผ้ป่วยฝีดาษลิงรายแรกที่จังหวัดภูเก็ต ทำให้เกิดความกังวลถึงการแพร่ระบาด เนื่องจากเป็นโรคที่สามารถติดต่อได้จากคนสู่คน มาทำความรู้จักโรคนี้เพื่อระวังป้องกัน
โรคฝีดาษวานร ฝีดาษลิง (Monkeypox) คืออะไร
ข้อมูลจาก กรมควบคุมโรค ระบุว่า เป็นโรคสัตว์สู่คน (Zoonosis Diseases) ที่เกิดจากเชื้อไวรัส กลุ่ม Orthopoxvirus ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกันกับเชื้อไวรัสโรคฝีดาษ มี 2 สายพันธุ์ ได้แก่
- สายพันธุ์ West African clade อาการไม่รุนแรง อัตราป่วยตายอยู่ที่ 1%
- สายพันธุ์ Central African clade อาการรุนแรงกว่า อัตราป่วยตายอยู่ที่ 10%
สัตว์รังโรค
ยังไม่มีความรู้ที่แน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะเป็น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก โดยเฉพาะในสัตว์ฟันแทะและลิง
การติดต่อ
- จากสัตว์สู่คน โดยการสัมผัสกับสารคัดหลั่ง หรือแผลของสัตว์ป่วย หรือการกินสัตว์ที่ปรุงไม่สุก
- จากคนสู่คน โดยการสัมผัสโดยตรงกับแผล หรือสารคัดหลังทางเดินหายใจของผู้ป่วย หรือสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนสารคัดหลั่งของผู้ป่วย เช่น เสื้อผ้า
มีการตั้งสมมุติฐานว่า โรคฝีดาษลิง อาจสามารถติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ แต่ยังไม่มีหลักฐานสนับสนุนเพียงพอ
นอกจากนี้ รพ.พญาไท ยังรวบรวมอาการของผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง ไว้ดังนี้
อาการฝีดาษลิง
อาการเริ่มแรกจะมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง ต่อมน้ำเหลืองโต หลังจากนั้น 1-3 วัน จะเริ่มมีผื่นขึ้นที่หน้า ลำตัว แล้วลามออกไปที่แขนขา โดยผื่นจะเห็นเด่นชัดมากที่บริเวณหน้า และแขน ขา
อาการดังกล่าวจะอยู่ราวๆ 2-4 สัปดาห์ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายจากโรคเองได้ โดยอาการรุนแรงมักพบในกลุ่มเด็ก ซึ่งในประเทศแอฟริกาพบอัตราการเสียชีวิตประมาณ 10%
ลักษณะผื่นแบ่งตามระยะดังนี้
- เริ่มจาก ผื่นนูนแดง (Maculopapular)
- ตุ่มน้ำใส(Vesicles)
- ตุ่มหนอง (Pustules)
- ตุ่มหนองบุ๋มตรงกลาง (Umbilicated Pustules)
- สะเก็ด (Crusted)
- แผลลอก
วิธีการป้องกันการติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงกับเลือด ตุ่มหนอง หรือสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย ละอองฝอย หรือน้ำเหลืองของสัตว์ที่ติดเชื้อ สัตว์ป่า หรือจากผู้ที่สงสัยว่าป่วยหรือมีประวัติเสี่ยงติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงการกินเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกไม่เพียงพอ
- หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์ โดยแยกของใช้ส่วนตัวทุกชนิดไม่ใช้ร่วมกับผู้อื่น
- หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา จมูก และปาก เป็นต้น
- การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้ทรพิษ สร้างจาก Modified Vaccinia Ankara-Bavarian Nordic (MVA-BN) สำหรับป้องกัน Orthopoxvirus สามารถป้องกันได้ทั้งโรคไข้ทรพิษ และโรคฝีดาษลิง ซึ่งมีประสิทธิภาพป้องกันโรคได้ถึง 85%
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ราชกิจจาฯ ประกาศให้ ‘รคฝีดาษลิง’ เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง
- อย่ารีรอ!! สธ. ย้ำฉีดวัคซีน ‘โควิด’ พร้อม ‘ไข้หวัดใหญ่’ ช่วยลดความเสี่ยง 2 โรคช่วงฤดูฝน