General

ไม่เอากัญชาเสรี!! 25 องค์กรมุสลิม ออกแถลงการณ์ เรียกร้อง ‘กัญชา’ เป็นยาเสพติดประเภท 5 ตามเดิม

25 องค์กรมุสลิม ประกาศแถลงการณ์ ค้านกัญชาเสรี เรียกร้องรัฐบาลให้นำกัญชาเข้าเป็นยาเสพติดประเภท 5 ตามเดิม โดยให้ใช้สำหรับกัญชาทางการแพทย์เท่านั้น

องค์กรมุสลิม ในนาม องค์กรเครือข่ายคัดค้านกฎหมายและระเบียบปฏิบัติที่ขัดกับหลักศีลธรรม 25 องค์กร เรียกร้องรัฐบาลให้นำกัญชาเข้าเป็นยาเสพติดประเภท 5 ตามเดิม โดยให้ใช้สำหรับกัญชาทางการแพทย์เท่านั้น พร้อมชง 6 ข้อเสนอแนะ โดยระบุว่า

กัญชาเสรี

เปิดแถลงการณ์ เรื่อง ชี้แจงผลกระทบและคัดค้านกฎหมายกัญชาเสรี

สืบเนื่องจากประกาศกระทรวงสาธารณสุขในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ประกาศยกเว้นกัญชาจากการเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 โดยการไม่ระบุว่า พืชกัญชา รวมถึงส่วนต่างๆ ของพืช เช่น ใบ ช่อดอก เป็นสารเสพติดให้โทษ

ประกาศดังกล่าว มีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนทุกคนในประเทศไทย รวมถึงเด็กและเยาวชนอันเป็นอนาคตของชาติสามารถเข้าถึงกัญชา และผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชาได้โดยไม่ผิดกฎหมาย จากการบริโภคอาหาร และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชา รวมถึงการนำกัญชาซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ทำให้เสพติดมาใช้เพื่อประกอบอาหารและนันทนาการ

สอดคล้องกับความเห็นทางการแพทย์ที่ยืนยันว่า กัญชา เป็นพืชที่มีสารแคนาบินอยด์หลายชนิดโดยเฉพาะสาร THC ซึ่งอาจส่งผลอันตรายต่อสุขภาพ และไม่ควรใช้เพื่อการสันทนาการ เพราะอาจทำให้เกิดโทษรุนแรงได้

ผู้ใช้กัญชาด้วยวิธีการใด ๆ มีโอกาสได้รับสารแคนนาบินอยด์ในกัญชาที่มีผลกระทบที่รุนแรง โดยเฉพาะต่อหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร เด็ก และเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี เพราะมีผลต่อการพัฒนาการของสมองทั้งในแม่และเด็ก และอาจส่งผลต่อสมองของเด็กและวัยรุ่น เช่น พัฒนาการล่าช้า ปัญหาพฤติกรรม เชาวน์ปัญญาลดลง

LINE ALBUM กัญชาปลดล็อคปล่อยนักโทษ ๒๒๐๗๐๘

นอกจากนี้ ยังส่งผลต่ออารมณ์และจิตใจ เช่น มีความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคจิตเภท เสี่ยงต่อการติดสารเสพติดชนิดอื่นๆ รวมถึงส่งผลเสียต่อสุขภาพกาย ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว

รวมถึงผู้ขับรถหรือทำงานกับเครื่องจักร ในระยะ 6 ชั่วโมงหลังใช้กัญชา จะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้สูงเช่นเดียวกับสุรา และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคจิตประสาท โรคระบบหัวใจ และหลอดเลือด เพราะอาจมีผลต่อยาและการรักษาที่ได้รับอยู่

ดังนั้น องค์กรเครือข่ายคัดค้านกฎหมายและระเบียบปฏิบัติที่ขัดกับหลักศีลธรรม จึงมีแถลงการณ์ ดังต่อไปนี้

1. พืชกัญชามีทั้งประโยชน์และโทษมหันต์ องค์กรเครือข่ายคัดค้านกฎหมายและระเบียบปฏิบัติที่ขัดกับหลักศีลธรรม จึงไม่คัดค้านการนำมาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์

2. ขอสนับสนุนการนำทุนทางทรัพยากรมาใช้ในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและอนาคตของชาติ

3. ขอคัดค้านกฎหมายกัญชาเสรี และการยกเว้นกัญชาจากการเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ตลอดจนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเล็งเห็นผลกระทบที่อาจสร้างความเสียหายต่อสังคม ทั้งในด้านความสงบสุขของสถาบันครอบครัวและสังคม ตลอดจนด้านศีลธรรมจรรยา ที่มีมากกว่าผลประโยชน์ที่คาดหวังว่าจะได้รับจากการเปิดเสรี

292730587 5973778062649301 7228484149476109882 n

ดังนั้นจึงขอ เรียกร้องรัฐบาลให้นำกัญชาเข้าเป็นยาเสพติดประเภท 5 ตามเดิม โดยให้ใช้สำหรับกัญชาทางการแพทย์เท่านั้น

4. ขอเรียกร้องให้องค์กรทางสุขภาพ องค์กรพัฒนาสังคม องค์กรเกี่ยวกับเด็ก เยาวชนและครอบครัว ตลอดจนมัสยิดและองค์กรศาสนาอิสลาม สมาคมอิสลาม สถาบันการศึกษาอิสลาม ทั้งสถาบันปอเนาะ โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม สถาบันอุดมศึกษาอิสลาม ร่วมมือกันรณรงค์ให้ความรู้ความตระหนักให้แก่นักเรียน นักศึกษา สถาบันครอบครัวและสังคมทั่วไป เพื่อให้งดเว้นการสนับสนุนและการใช้กัญชาทุกรูปแบบ ยกเว้นการใช้ทางการแพทย์

ตามคำวินิจฉัย(ฟัตวา) ที่ 1/2563 ของจุฬาราชมนตรี ที่ระบุว่าการใช้กัญชง กัญชาเพื่อสันทนาการและความสราญใจ เช่น การกิน การดื่ม สูบ เคี้ยว ดม หรือวิธีใดก็ตาม ถือเป็นฮารอม (สิ่งต้องห้าม) ฐานเดียวกับการดื่มสุรา ยกเว้นการนำมาใช้ในทางการแพทย์หากมีความจำเป็น รวมถึงออกมาชี้แจงผลเสียหรือผลกระทบของกฎหมายกัญชาเสรี ตลอดจนเสนอแนะแนวทางในการป้องกันแก้ไข

5. เรียกร้อง ให้พรรคการเมือง และนักการเมิอง คำนึงถึงคุณภาพชีวิตของประชาชนและเยาวชนอนาคตของชาติมากกว่าผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ได้จากพืชกัญชา

6. ขอให้ทุกองค์กรทุกภาคส่วน โดยเฉพาะสถานศึกษา และศาสนสถานประกาศเขตปลอดกัญชา ซึ่งสอดคล้องกับข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรี

ลงวันที่ 8 กรกฎาคม2565

ขอบคุณข้อมูล/ภาพ:  เพจ จะนะเมืองน่าอยู่ และ ชมรมแพทย์ชนบท

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo