ทำความรู้จัก “โรคฝีดาษลิง” หลังพบเริ่มลามหลายประเทศ มีสาเหตุจากอะไร พร้อมแนะวิธีป้องกัน รักษา
หลังจากเริ่มพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง ในอังกฤษแล้วหลายราย และล่าสุดเจอรายแรกในสหรัฐ เมื่อหลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการเปิดประเทศ รวมถึงไทย จึงควรทำความรู้จักโรคที่อาจมาจากต่างประเทศได้
พญ. วิริยาภรณ์ จันทร์รัชชกูล อนุสาขากุมารเวชศาสตร์โรคติดเชื้อ โรงพยาบาลสมิติเวช
เขียนบทความลง เว็บไซต์โรงพยาบาลสมิตเวช ถึงโรคฝีดาษลิง หรือไข้ทรพิษลิง (Monkeypox) ไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้
ไข้ทรพิษลิง ป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่พบในสัตว์ตระกูลลิงและสัตว์ฟันแทะ มีโอกาสติดมาสู่คนแต่น้อยมาก จากการสัมผัสเลือดหรือสารคัดหลั่งของสัตว์ที่เป็นโรค ลักษณะอาการคล้ายไข้ทรพิษแต่มีความรุนแรงน้อยกว่า ผู้ป่วยที่ติดเชื้อนี้มีโอกาสเสียชีวิตระหว่าง 1-10%
ไข้ทรพิษลิง ยังไม่มีวิธีการรักษาหรือวัคซีนป้องกันเฉพาะเจาะจง แต่สามารถควบคุมการระบาดได้ การฉีดวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษซึ่งมีประสิทธิภาพ 85%
ไข้ทรพิษลิง (Monkeypox) ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี 1958 ช่วงการระบาดของโรคที่คล้ายไข้ทรพิษหรือฝีดาษ โดยพบในบริเวณที่เลี้ยงลิงไว้เพื่อการวิจัย
ต่อมาในปี 1970 ได้พบการระบาดเกิดขึ้นในมนุษย์ครั้งแรกที่ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก โดยเรียกว่าไข้ทรพิษลิงในคน (Human Monkeypox) ซึ่งระบาดอยู่เพียงประเทศในแถบแอฟริกากลางและตะวันตกเท่านั้น และหลังจากนั้นก็ยังพบว่ามีการติดเชื้อในคนอีกถึง 3 ครั้ง
อาการของโรคไข้ทรพิษลิง
ไข้ทรพิษลิง เป็นโรควินิจฉัยได้ยาก อาการของโรคจะแสดงหลังจากติดเชื้อไปแล้วประมาณ 12 วัน โดยมีอาการคล้ายโรคฝีดาษ มีลักษณะอาการดังนี้
- มีไข้ หนาวสั่น ปวดศีรษะ ต่อมน้ำเหลืองโต ปวดกล้ามเนื้อและอ่อนเพลีย บางกรณีอาจมีอาการไอหรือปวดหลังร่วมด้วย
- หลังจากมีไข้ประมาณ 1-3 วัน ผู้ป่วยจะมีผื่นขึ้นโดยเริ่มจากใบหน้าแล้วแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
- จากนั้นผื่นจะกลายเป็นตุ่มหนอง และสุดท้ายตุ่มหนองจะมีสะเก็ดคลุมแล้วหลุดออกมา
- อาการป่วยดังกล่าวจะเป็นอยู่ประมาณ 2-4 สัปดาห์ โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายจากโรคเองได้
- แต่ในกรณีผู้ที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำหรือมีโรคประจำตัว อาจเกิดโรคแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ปอดบวม หรือเสียชีวิต
กลุ่มเสี่ยงที่จะรับเชื้อ
สำหรับในประเทศไทยเอง ยังไม่เคยมีประวัติการพบโรคดังกล่าว เนื่องจากอยู่ในประเทศที่ไม่มีประวัติการเกิดโรคจากเชื้อไวรัส แต่ปัจจุบันการเดินทางไปท่องเที่ยวหรือทำธุรกิจ ในประเทศกลุ่มเสี่ยง อาจมีโอกาสติดเชื้อและนำกลับมายังประเทศได้
โดยมีกลุ่มเสี่ยงคือ แรงงานต่างชาติ หรือคนไทยที่ไปทำงานในประเทศที่มีการติดเชื้อ นักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ผู้ที่เดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศที่เสี่ยงจะมีเชื้อไวรัสระบาด นักธุรกิจ ที่เดินทางไปหรือมาจากประเทศที่พบการติดเชื้อ
การป้องกัน
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ป่วยโดยเฉพาะลิง และหนู
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง และสิ่งของของผู้ป่วย รวมถึงลมหายใจของผู้ป่วย
- หมั่นล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลทำความสะอาดทุกครั้ง หลังสัมผัสสัตว์ หรือสัมผัสสิ่งของสาธารณะ
- ใช้ผ้าปิดจมูกและปาก เมื่อไปในสถานที่เสี่ยงมีโรคระบาด
- ถ้าพบผู้ป่วย ให้แยกผู้ป่วยที่ติดเชื้อออกจากผู้อื่น
- การฉีดวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษ
อย่างไรก็ตาม แม้วัคซีนป้องกันไข้ทรพิษจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อดังกล่าวได้ แต่การฉีดวัคซีนควรทำเฉพาะในบุคคลที่ต้องทำงานมีความเสี่ยง หรือใกล้ชิดกับคนหรือสัตว์ที่ติดเชื้อเท่านั้น และวัคซีนยังสามารถรับได้ภายหลังการได้รับเชื้อไม่เกิน 14 วัน
การรักษา
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาหรือวัคซีนป้องกันเฉพาะเจาะจง แต่สามารถควบคุมการระบาดได้ด้วย การฉีดวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษ ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ 85%
อย่าชะล่าใจว่าโรคไข้ทรพิษลิง จะติดต่อกันเฉพาะสัตว์สู่สัตว์เท่านั้น เพราะโรคนี้สามารถติดต่อจากคนที่ได้รับเชื้อสู่คนได้
ดังนั้นใครที่ต้องเดินทางไปทำงานในประเทศที่พบผู้ป่วยด้วยโรคนี้ ควรติดตามข่าวสารให้ละเอียด หรือปรึกษาแพทย์ให้แน่ใจก่อนที่จะต้องเดินทางล่วงหน้า ก็จะช่วยป้องกันตัวเองได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สิงค์โปร์ยืนยันพบผู้ป่วย ‘โรคฝีดาษลิง’ สั่งกักตัวคนใกล้ชิด
- ผับบาร์ รอเฮ! จ่อชง ‘ศบค.’ เคาะเปิดสถานบันเทิง ลุยประกาศเป็นโรคประจำถิ่น
- ‘หมอขวัญชัย’ แนะวิธีเดินหน้าสู่การเปลี่ยนโควิด จากโรคระบาดสู่โรคประจำถิ่น