“ทนายตั้ม” พาเหยื่ออ้างถูกนักการเมืองกระทำอนาจารแจ้งความดำเนินคดีเพิ่ม พร้อมมอบหลักฐานคลิปลับให้ตำรวจแล้ว ลั่นไม่กลัวถูกฟ้องกลับ
ที่สน.ลุมพินี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ได้พาผู้เสียหายที่อ้างว่าถูกนักการเมืองคนหนึ่ง ลวงไปข่มขืนและกระทำอนาจารมาแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติม
ไม่กลัวถูกฟ้องกลับ
โดย นายษิทรา กล่าวว่า วันนี้นัดผู้เสียหายมาแจ้งความ 6-7 ราย แต่บางรายไม่สะดวกมาแล้ว ซึ่งผู้ที่พามาแจ้งความล่าสุดเป็นผู้อัดคลิปเสียงหลักฐานการพูดคุยกับผู้ก่อเหตุที่ไม่เคยปฏิเสธว่าได้ก่อเหตุดังกล่าว สำหรับเหยื่อรายนี้ เคยถูกข่มขืนเมื่อปี 2563 แต่คาดว่ายังอยู่ในอายุความ เพราะมีการแก้ไขกฎหมายไม่ให้เป็นคดียอมความได้ ซึ่งตอนแรกเหยื่อไม่ยอม จะไปแจ้งความตั้งแต่เกิดเรื่อง แต่กลัวจะดำเนินคดีไม่ได้ อีกทั้งผู้ก่อเหตุยังเสนอเงินมาให้เรื่องจบไป 2-3 ครั้ง ก็ได้รับไว้ เนื่องจากโดนข่มขู่ว่าพ่อผู้ก่อเหตุใหญ่มาก แต่ตอนนี้ไม่ได้รับเงินแล้ว
ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่กลัวการฟ้องกลับ เพราะเหยื่อทุกคนมั่นใจให้ตนมาดำเนินคดี ถ้าตนกลัวคนอื่นก็เสียขวัญ แต่ยอมรับว่าสับสนเพราะเหยื่อเยอะ แต่พฤติการณ์ส่วนใหญ่ คือพาเหยื่อไปคุยที่ร้านอาหารและพาไปขืนใจที่ห้อง แต่มีเหยื่อที่ถูกวางยาจะมาแจ้งความด้วย ส่วนอีกรายถูกกระทำที่ประเทศอังกฤษ จะเข้ามาเป็นพยาน
ยันไม่รู้จักกับคนในพรรคก้าวไกล
ส่วนเรื่องตำรวจยศพันตำรวจเอก จะให้เงินปิดปากเหยื่อนั้น ยังไม่มีข้อมูลมา แต่ได้ให้ผู้ใหญ่ตรวจสอบแล้ว สำหรับเรื่องคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นขบวนการของพรรคก้าวไกลที่จะดิสเครดิตนั้น ยืนยันไม่รู้จักกับคนในพรรคก้าวไกล ตนไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย
“หากพบว่ามีความพยายามบีบบังคับข่มขู่เหยื่อ ผมจะทำเรื่องถอนการประกันตัว ยืนยันตอนนี้ยังไม่มีใครถอนแจ้งความ แต่บางคนไม่ให้ความร่วมมือต่อ วานนี้เขาควรจะไปที่ศาลเพื่อทำเรื่องค้านการประกันตัวผู้ต้องหาแต่เขาไม่ไป ขอไม่ระบุว่าเป็นใคร แต่ให้ดูว่าใครยังสู้ ใครเงียบไป ทั้งนี้ขอชื่นชมตำรวจ สน.ลุมพินี ที่ประสานกับผมตลอด ทั้งการเตรียมพนักงานสอบสวน และจะให้ผู้เสียหายที่มาแจ้งความทั้งหมดรวมเป็นสำนวนคดีเดียว” ทนายตั้ม กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- มาตามนัด! ‘ทนายตั้ม’ เปิดคลิปลับ ‘เหยื่อ’ วอน ‘รองหัวหน้าพรรค’ ยอมรับผิด ฝ่ายชายโบ้ย เป็นเรื่องการเมือง
- ‘ทนายตั้ม’ ร้องผบ.ตร.สอบด่วน สถานบันเทิงภูเก็ต เปิดยันเช้า ไม่มีใบอนุญาต
- ทนายตั้มแฉเอง! ลั่น ‘เหยื่อรองหัวหน้าพรรค’ พุ่งเกิน 10 ราย กว่าครึ่งถูกข่มขืน
