‘PM 2.5’ ตัวร้ายทำลายสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคปอด และ หลอดเลือดหัวใจ แนะวิธีป้องกัน พร้อม เช็คค่าฝุ่น ก่อนออกจากบ้าน
ฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ ที่เรียกกันคุ้นปากว่า PM2.5 เริ่มกลับมาเยือนอากาศในบ้านเรา โดยเฉพาะในกรุงเทพ ปริมณฑล เมืองใหญ่ และ จังหวัดที่มีการเผาพืชผลทางการเกษตร เช่น เชียงใหม่ เชียงราย และชลบุรี
รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย และนายกสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้ข้อมูลว่า PM2.5 เป็นอนุภาคขนาดเล็กมีเส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ยน้อยกว่า 2.5 ไมโครเมตร แขวนลอยอยู่ในอากาศรวมกับไอน้ำ ควัน และก๊าซ สามารถนำพาสารต่าง ๆ ล่องลอยอยู่รอบตัวเราได้ในปริมาณสูง
ทำให้เกิดเป็นหมอกควันที่เป็นมลพิษต่อสุขภาพของมนุษย์ คนทั่วไปที่สูดเอาฝุ่น PM2.5 เข้าไปจะมีอาการระคายเคืองจมูก น้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอ
แต่สำหรับคนที่ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบการหายใจ รวมถึงผู้ที่ป่วยเป็นโรคระบบหัวใจและหลอดเลือดจะทำให้โรคที่เป็นอยู่กำเริบขึ้นมาได้ ส่วนในระยะยาวอาจก่อมะเร็งปอดและทำให้สมรรถภาพปอดของเยาวชนถดถอย
กรุงเทพมหานครมีฝุ่นชนิด PM2.5 ที่เป็นมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงธรรมชาติมากเป็นประจำอยู่แล้ว เมื่อไหร่ที่อุณหภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงเร็ว ความชื้นในอากาศสูงขึ้น ลมอับ แสงแดดยังไม่ได้เวลามาเยือน
ประกอบกับกรุงเทพฯ มีอาคารสูงจำนวนมาก ก็จะทำให้การไหลถ่ายเทอากาศในยามลมอับไม่ดี ไม่ต่างกับจังหวัดเชียงใหม่ที่เป็นเมืองแอ่งกระทะตามธรรมชาติ ก็จะเกิดปรากฏการณ์ “impaction” หมายถึง ฝุ่นขนาดเล็ก คือ PM2.5 ฟุ้งกระจายออกไปได้ยาก
ฝุ่น PM2.5 ตัวร้าย ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทันทีทันใด
ทำให้ผู้ป่วยโรคปอดเรื้อรังทุกชนิดมีอาการกำเริบ
ทำให้ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจมีอาการกำเริบ ทั้งนี้ ไม่นับผลระยะยาวที่มีอีกมากมาย
แนวทางการป้องกัน
รศ.นพ.นิธิพัฒน์ให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับฝุ่นขนาดเล็ก ดังนี้ ติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศจากแหล่งของกรมควบคุมมลพิษที่มีครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ไม่ใช่เพียงในกรุงเทพฯ เท่านั้น
ถ้าเห็นค่าปริมาณ PM 2.5 เป็นสีแดง แสดงว่าสูงเกินค่ากำหนดขององค์การอนามัยโลกที่ค่าเฉลี่ยตลอด 24 ชั่วโมงไม่ควรเกิน 25 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
เมื่อเห็นแล้วควรหลีกเลี่ยงเดินทางออกจากที่พักอาศัยจนกว่าระดับจะลดลงมาเป็นสีส้ม ที่ยังพอจะยอมรับได้
ถ้าจำเป็นจะต้องเดินทาง สำหรับคนที่ไม่มีโรคเรื้อรังที่รุนแรงดังกล่าวมาแล้ว แนะนำให้ใช้หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่นอกอาคาร โดยต้องสวมให้ถูกวิธีและกระชับกับใบหน้าส่วนปากและจมูกให้มากที่สุด
ถ้าเป็นคนที่มีโรคเรื้อรังที่รุนแรงดังกล่าวมาแล้ว ไม่ควรออกจากบ้าน แต่ถ้าจำเป็นจริง ๆ เช่น ต้องไปโรงพยาบาลพบแพทย์ตามนัด ให้ใช้หน้ากากชนิด N95 ซึ่งพอจะช่วยกรองเจ้าตัวฝุ่นร้ายขนาดเล็กนี้ได้ในปริมาณที่มากกว่าหน้ากากอนามัยธรรมดา พร้อมตรวจสอบว่าหน้ากากนั้นกระชับรูปหน้าดีแล้ว
เช็คค่าฝุ่น PM2.5 ก่อนออกจากบ้าน
ก่อนออกจากบ้าน ควรตรวจสอบค่าฝุ่นแต่ละพื้นที่ เพื่อเตรียมตัวหรือหลีกเลี่ยงพื้นที่นั้น คลิกเลย!!
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘กรุงเทพมหานคร’ เมืองในฝุ่น ‘PM2.5’ เกินมาตรฐาน 45 พื้นที่ เช็คได้ที่นี่
- วันนี้ ‘PM2.5′ กระจายทั่วกรุง ’43 พื้นที่เกินมาตรฐาน’ เริ่มมีผลต่อสุขภาพ เช็คได้ที่นี่!!
- ‘หมอธีระ’ อัพเดทสถานการณ์ ‘โอไมครอน’ เอเชีย เตือน! ไทยกำลังจะพีคในไม่ช้า