‘เรดด์พลัส’ การลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการทำลายป่าและการทำให้ป่าเสื่อมโทรม อีกหนึ่งกลไกรับวันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ
วันที่ 14 มกราคม วันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ได้เผยแพร่บทความของ ดร.จีรนุช ศักดิ์คำดวง นักวิจัยอาวุโส สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย โดยระบุว่า
สังคมส่วนใหญ่ตระหนักดีว่าป่าไม้มีประโยชน์ต่อคนเราทั้งทางตรงและทางอ้อม เป็นแหล่งอาหาร สมุนไพร เชื้อเพลิง และวัสดุก่อสร้าง อีกทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า เป็นแหล่งรวมความหลากหลายทางชีวภาพ และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร นอกจากนี้ ป่าไม้ยังช่วยรักษาความสมดุลตามธรรมชาติ สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ช่วยบรรเทาภัยธรรมชาติ ไม่ว่าน้ำหลากและดินถล่ม ส่วนป่าชายเลนนั้นช่วยลดผลกระทบจากคลื่นสึนามิ
ไม่กี่ปีมานี้ ทรัพยากรป่าไม้ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง เนื่องจากมีคุณสมบัติในการดูดกลับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน จึงมีการริเริ่มกลไกการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการทำลายป่าและการทำให้ป่าเสื่อมโทรม หรือเรียกว่า เรดด์พลัส (Reducing Emission from Deforestation and Forest Degradation: REDD+)
โดยประเทศที่พัฒนาแล้วในฐานะผู้ปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ จะสนับสนุนเงินทุนแก่ประเทศกำลังพัฒนาที่เข้าร่วมกลไกเรดด์พลัสตามผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งก็คือปริมาณคาร์บอนที่กักเก็บได้ จากกิจกรรมลดการทำลายป่าและการทำให้ป่าเสื่อมโทรม การส่งเสริมการอนุรักษ์ป่าไม้ การจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน และเพิ่มการกักเก็บคาร์บอน
ปัจจุบัน ได้มีการจ่ายค่าตอบแทนแก่ชุมชนที่อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และมีการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนในหลายประเทศ ภายใต้กลไกเรดด์พลัส ซึ่งถือเป็นแรงจูงใจหนึ่งที่จะทำให้เกิดการจัดการและใช้ประโยชน์ทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืน ผ่านความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ โดยมีกระบวนการปกป้องผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม และคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของกลุ่มชาติพันธุ์และชุมชนที่พึ่งพิงทรัพยากรป่าไม้ในการดำรงชีวิต
วันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติในปีนี้ จึงขอร่วมกันสื่อสารแก่สังคมและคนรุ่นใหม่ให้ตระหนักถึงความสำคัญของป่าไม้ และร่วมมือกันการดูแลรักษาป่าไม้ของประเทศ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เตรียมยกระดับ “ใบกระท่อม” แปรรูปเป็นสินค้า มอก.
- เปิด 7 ข้อหลอกบนโลกออนไลน์ ตร.เตือนอย่าหลงกลมิจฉาชีพ
- รัฐบาลขอบคุณคนไทย ‘เชื่อมั่น’ ระบบสาธารณสุขรับมือโควิดสายพันธุ์ใหม่ได้