General

‘มหิดล’ ติดปีก ‘ทักษะการใช้ชีวิตในโลกที่เปลี่ยนแปลง’ ให้กับนักศึกษา

มหิดล ชี้ สังคมภายในรั้วมหาวิทยาลัย เปรียบเหมือน “สังคมจำลอง” ของโลกแห่งความเป็นจริงที่อยู่ภายนอก ไม่ว่าสถานการณ์โลกภายนอกรั้วมหาวิทยาลัยจะเป็นเช่นไร สิ่งที่ดีที่สุด ที่มหาวิทยาลัยจะสามารถให้นักศึกษาได้ คือ การติดปีกด้วย “ทักษะแห่งชีวิต” นอกเหนือไปจาก “ทักษะแห่งวิชาการ” 

ผศ.ร.อ.ท.ทพ. ชัชชัย คุณาวิศรุต รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา และศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ไม่ว่าวิกฤติโควิด-19 จะพลิกโลกแห่งการศึกษาให้เปลี่ยนแปลงไปได้มากน้อยเพียงใด  แต่ความเป็นมหาวิทยาลัย ที่ให้นักศึกษาได้เข้ามาเรียนรู้ Sandbox ของการใช้ชีวิตในอนาคตด้วยตัวเองจาก สังคมจำลอง ภายในรั้วมหาวิทยาลัยนั้น ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น

มหิดล

ในฐานะผู้ริเริ่มแพลตฟอร์ม ทักษะการใช้ชีวิต H-I-D-E-F ให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล ผศ.ร.อ.ท.ทพ. ชัชชัย กล่าวว่า ในสถานการณ์โควิด-19 นั้น  H หรือ Health literacy เป็นทักษะความรู้ด้านสุขภาวะที่ขาดไม่ได้สำหรับ มหาวิทยาลัยแห่งสุขภาวะ อย่าง มหิดล ที่จะต้องปลูกฝังให้เป็นพื้นฐานชีวิตที่สำคัญแก่นักศึกษา เพื่อประโยชน์ในการดูแลตัวเอง และผู้ที่อยู่รอบข้าง

นอกจากนี้ เพื่อให้ก้าวทันโลกที่เปลี่ยนแปลงจำเป็นต้องเสริมทักษะ D หรือ Digital literacy ซึ่งเป็นทักษะด้านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และ F หรือ Financial literacy ซึ่งเป็นทักษะเรื่องการใช้จ่ายร่วมด้วย โดยมหาวิทยาลัยมหิดลได้จัดอบรมทั้ง 2 ทักษะดังกล่าว ให้กับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยมหิดลอยู่แล้วอย่างต่อเนื่อง

ในปีการศึกษา 2565 จะได้เน้นเพิ่มเติมในส่วนของ I หรือ Internationalization ทักษะความเป็นนานาชาติ และ E หรือ Environmental literacy ทักษะด้านสิ่งแวดล้อม ที่จะต้องเร่งฟื้นฟู หลังคลายล็อกกันอย่างจริงจังต่อไป

อีกการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่ทำให้มหาวิทยาลัยมหิดลขึ้นชื่อว่าเป็น Change Agent หรือ ผู้นำ ซึ่งกล้าที่จะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตามโลกที่เปลี่ยนไป สู่สังคมแห่งความแตกต่างหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น การประกาศให้นักศึกษาของมหาวิทยาลัยมหิดล สามารถแต่งกายได้ตามเพศสภาพ และตามความเชื่อทางศาสนา ภายใต้กรอบแห่งความเหมาะสมทางวิชาชีพในอนาคต

มหิดล
ผศ.ร.อ.ท.ทพ. ชัชชัย คุณาวิศรุต

มหิดลเปิดโอกาสนักศึกษาคิดวิเคราะห์ 

นอกจากจะเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้ยอมรับในความแตกต่างหลากหลาย และเคารพในความเป็นมนุษย์ ของแต่ละบุคคลแล้ว ยังเป็นการฝึกทักษะ Critical thinking หรือ ความคิดเชิงวิเคราะห์ จากการเปิดโอกาสให้นักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล ได้ฝึกใช้วิจารณญาณในการแต่งกายให้เหมาะสม ตามกฎระเบียบของมหาวิทยาลัยมหิดลอย่างมีเหตุผลด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นการแสดงออกได้ถึงความรับผิดชอบ ทั้งต่อตัวเอง และสังคมรอบข้างอีกด้วย

บทบาทสำคัญของมหาวิทยาลัยอีกประการหนึ่ง คือ การ รับฟัง เสียงของนักศึกษา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ความเป็นมหาวิทยาลัย โดย ผศ.ร.อ.ท.ทพ. ชัชชัย กล่าวว่า จะต้องเป็นการรับฟังอย่างตั้งใจ จริงใจ และด้วย ความเข้าใจเพื่อนมนุษย์ (Empathy)

นอกจากนี้ ควร รับฟังแบบเชิงรุก โดยไม่ต้องรอให้นักศึกษาเข้ามาบอกว่าต้องการอะไร แต่พร้อม ใส่ใจ-ติดตาม-ดูแล

มหิดล

ทั้งนี้ จะต้องไม่ทำให้นักศึกษารู้สึกเหมือนโดนจับผิด แต่เป็นการติดตาม เพื่อจะได้รู้ว่านักศึกษารู้สึกอย่างไร กับสิ่งที่มหาวิทยาลัยจัดการให้ แล้วนำมาเป็นข้อมูลใช้ปรับปรุงแก้ไขต่อไป

ทั้งหมดนี้ คือหัวใจสำคัญของ Student’s Journey ที่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยมหิดล จะได้พบเจอระหว่างเส้นทางของการเป็นนักศึกษา ที่จะจบออกไปเป็นบัณฑิตที่พร้อมโบยบินด้วยปีกที่เสริมแกร่งแล้ว ด้วยทักษะทางวิชาการ และทักษะการใช้ชีวิต

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo