“ทอท.” ขอความร่วมมืองด “ปล่อยโคมลอย” ในเขตพื้นที่รอบสนามบินช่วงเทศกาลลอยกระทงปี 2564 พร้อมประกาศ 6 พื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กระทรวงคมนาคม ขอความร่วมมือประชาชนงดหรือหลีกเลี่ยงการปล่อยโคมลอย โคมควัน ดอกไม้ไฟ แสงเลเซอร์ อากาศยานไร้คนขับ (Drone) ในเขตโดยรอบสนามบินทั้ง 6 แห่ง ช่วงเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2564 เพื่อมิให้เกิดอันตรายต่ออากาศยาน ผู้โดยสาร และประชาชนช่วงเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2564 คือ ระหว่างวันที่ 19 – 20 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งในบางพื้นที่มักจะมีการจัดกิจกรรมปล่อยโคมลอย โคมควัน
ในส่วนของ ทอท. ซึ่งบริหารสนามบินหลัก 6 แห่ง ของประเทศไทย ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ขอความร่วมมือประชาชนระมัดระวัง หรือหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการปล่อยวัตถุอันตรายขึ้นสู่ท้องฟ้า เช่น การปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน พลุ ตะไล ดอกไม้ไฟ ลูกโป่ง การปล่อยแสงเลเซอร์ และอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (Drone) ที่อาจเป็นอันตรายต่ออากาศยาน และการมองเห็นของนักบิน
โดยเฉพาะในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ (บริเวณสนามบินและโดยรอบสนามบิน) ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ.2497 มาตรา 59/1 และ 59/2 และประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เรื่อง การดำเนินกิจกรรมภายในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ พ.ศ.2563 ที่ห้ามมิให้การปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน บั้งไฟ พลุ ตะไล หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศโดยเด็ดขาด รวมถึงห้ามปล่อยแสงเลเซอร์ในบางพื้นที่ และตามประกาศ กพท. เรื่อง แนวทางในการพิจารณาอนุญาตให้อากาศยานซึ่งไม่มีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอกทำการบินภายในระยะ 9 กิโลเมตร (ห้าไมล์ทะเล) จากสนามบินหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยาน พ.ศ.2561 ซึ่งกำหนดให้ผู้บังคับหรือปล่อยโดรนต้องขออนุญาตจากผู้มีอำนาจอนุญาตตามกฎหมายก่อนทุกครั้งและปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด
สำหรับพื้นที่นอกเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ขอให้ผู้ที่ต้องการปล่อยโคมลอยฯ ตรวจสอบรายละเอียดในข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครหรือประกาศจังหวัดที่ต้องการจะปล่อย ซึ่งจะระบุรายละเอียดของพื้นที่ที่สามารถอนุญาตปล่อยได้ โดยในการจะปล่อยนั้นต้องดำเนินการขออนุญาตล่วงหน้าจากผู้อำนวยการเขตหรือนายอำเภอในพื้นที่นั้น ๆ ล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน
โดยในเขตพื้นที่ภาคเหนือที่ได้รับความนิยมในการปล่อยโคมลอยฯ เช่น จังหวัดเชียงใหม่ได้ออกประกาศไม่อนุญาตให้มีการจุดและปล่อยโคมลอยในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศและพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษระดับ 1 (พื้นที่สีแดง) อย่างเด็ดขาดในพื้นที่ 6 อำเภอ คือ
- อำเภอเมืองเชียงใหม่ ทุกตำบล
- อำเภอหางดงทุกตำบล
- อำเภอสารภี ใน 5 ตำบล ได้แก่ ตำบลขัวมุง ดอนแก้ว ท่าวังตาล หนองผึ้ง และสันทราย
- อำเภอแม่ริม ใน 5 ตำบล ได้แก่ ตำบลดอนแก้ว ริมใต้ แม่สา เหมืองแก้ว และริมเหนือ
- อำเภอสันทราย 1 ตำบล คือ ตำบลหนองหาร
- อำเภอสันป่าตอง 1 ตำบล คือ ตำบลทุ่งต้อม
สำหรับพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ได้กำหนดระยะเวลาการจุดและปล่อยโคมลอยกระทงเล็ก วันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 เวลา 19.00-01.00 น. ของวันถัดไป และวันลอยกระทงใหญ่ วันที่ 20 พฤศจิกายน 2564 เวลา 19.00-01.00 น. ของวันถัดไป โดยต้องแจ้งขออนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ก่อน 30 วัน หลังจากได้รับอนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ต้องแจ้ง ทชม. หรือศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ก่อน 14 วัน
ทั้งนี้ ในช่วงวันดังกล่าวมีสายการบินต่าง ๆ พิจารณาปรับเปลี่ยนเวลาทำการบินเพื่อลดความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการปล่อยโคมลอยฯ โดยมีเที่ยวบินที่แจ้งยกเลิก 16 เที่ยวบิน และเปลี่ยนแปลงเวลาการบิน 52 เที่ยวบิน รวมทั้งสิ้น 68 เที่ยวบิน (ข้อมูล ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2564)
อย่างไรก็ตาม ทอท. และสนามบินทั้ง 6 แห่งได้ตระหนักถึงความปลอดภัยของเครื่องบินและผู้โดยสาร จึงได้รณรงค์เรื่องการปล่อยโคมลอยฯ ให้ปลอดภัย เพื่อประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนให้รับทราบถึงแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการปล่อยโคมลอยฯ ในช่วงเทศกาลลอยกระทง รวมทั้งยังได้ร่วมส่งเสริมและสืบสานประเพณีลอยกระทงโดยการจัดซุ้มถ่ายภาพ และตกแต่งพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสารอีกด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘บิ๊กตู่’ สั่งเข้มป้องโควิดงานลอยกระทง ย้ำ! ห้ามปล่อยโคมลอย จุดพลุ ประทัด
- ลอยกระทงปีนี้ 19 พ.ย. กรุงเทพห้ามขาด จุดพลุ โคมลอย ฝ่าฝืนคุก 3 ปีปรับ 6 หมื่น
- จับตา!! ‘ศบค.’ จ่อคลายล็อก ให้คนไทยได้ฉลองปีใหม่ รับยังหวั่นคลัสเตอร์ลอยกระทง