มท.1 สั่งการผู้ว่าฯ 55 จังหวัด เตรียมรับมือภัยหนาว เน้นช่วยเหลือประชาชนทั่วถึง ไม่ซ้ำซ้อน ต้องการความช่วยเหลือโทรสายด่วนนิรภัย 1784 และสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูหนาวตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564
ทั้งนี้ จากการคาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูหนาวของประเทศไทย คาดว่าช่วงเวลาที่อากาศจะหนาวเย็นที่สุด จะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2564 ถึงปลายเดือนมกราคม 2565
55 จังหวัดเตรียมรับมือภัยหนาว
ภาคเหนือ 17 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ตาก ลำปาง แม่ฮ่องสอน ลำพูน พะเยา น่าน พิจิตร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก แพร่ กำแพงเพชร สุโขทัย อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ และจังหวัดอุทัยธานี
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา บึงกาฬ บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี อุบลราชธานี และจังหวัดอำนาจเจริญ
ภาคกลาง 14 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี ชัยนาท นครนายก นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง และจังหวัดฉะเชิงเทรา
ภาคตะวันออก 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี ปราจีนบุรี ชลบุรี และจังหวัดสระแก้ว
สำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภู รวมทั้งเทือกเขา จะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และจะมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง
ดังนั้น เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยจากอากาศหนาวให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ให้เตรียมความพร้อม โดยตั้งคณะทำงานติดตามสภาวะอากาศ คาดหมายพื้นที่เสี่ยงที่มีโอกาสเกิดสถานการณ์ การแจ้งเตือน และการเตรียมความพร้อมช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยจากอากาศหนาว
พร้อมกันนี้ ให้ทั้งทบทวน ปรับปรุงแผนเผชิญเหตุ สำรวจข้อมูลบัญชีผู้ประสบภัยหนาวกลุ่มเปราะบาง ทั้งผู้สูงอายุ เด็กไร้ผู้อุปการะ คนพิการ ทุพพลภาพ สตรีมีครรภ์ ตลอดจนผู้ที่มีรายได้น้อย และให้เร่งซักซ้อมแนวทางตามแผนเผชิญเหตุ บูรณาการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย จัดเตรียมเครื่องกันหนาว และสร้างการรับรู้ในการดูแลสุขภาพในช่วงฤดูหนาว
ขณะเดียวกัน เน้นย้ำให้เฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมป้องกันโรคติดต่อในช่วงหนาว และต้องระมัดระวังการเกิดเพลิงไหม้จากการลืมดับไฟที่จุดเพื่อเพิ่มความอบอุ่นของร่างกาย ด้วย
สำหรับในช่วงฤดูหนาวจะมีสภาพอากาศแห้ง และนักท่องเที่ยวก็นิยมเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอากาศหนาวเย็น จึงได้เน้นย้ำให้ทุกจังหวัดกำหนดมาตรการการป้องกันการเกิดอัคคีภัย เตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ รถยนต์ รถบรรทุกน้ำ อุปกรณ์ดับเพลิงให้มีความพร้อมปฏิบัติงานได้ทันที และเฝ้าระวังการเกิดอัคคีภัยในพื้นที่ชุมชน ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยว
ในส่วนของพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มีประชาชนเดินทางไปจำนวนมาก ก็ให้ดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขในการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) อย่างเคร่งครัด
ขณะที่ในภาคใต้ ได้เน้นย้ำผู้ว่าราชการจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ ประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดเพชรบุรี เฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศ เตรียมความพร้อมแก้ไขปัญหาและรับมือสถานการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่มจากฝนตกหนัก และคลื่นลมแรงในพื้นที่ ทั้งด้านบุคลากร เครื่องมือ รถ เรือ และอุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีหากเกิดภัย
หากประชาชนต้องการขอรับความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสายด่วนนิรภัย โทร. 1784 และสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- จะหนาวแล้ว!! ‘กรมอุตุฯ’ ประกาศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว 2 พ.ย. เป็นต้นไป
- ‘ผู้ว่าฯ กทม.’ เตือนคนกรุงรับมือฝุ่น PM2.5 ช่วงฤดูหนาว ธ.ค.-ก.พ.นี้
- พยากรณ์อากาศวันนี้ ทั่วไทยฝนลดลง ลุ้นลมหนาวหลายภาคต่ำสุด 20 องศา!
