General

เตือน!! ‘ขนมไหว้พระจันทร์’ แป้ง-น้ำตาลสูง กินมากเสี่ยงอ้วน

“กรมอนามัย” แนะให้กินขนมไหว้พระจันทร์ในปริมาณที่เหมาะสม พบไส้เม็ดบัวและไข่ 100 กรัม ให้พลังงานสูงสุดอยู่ที่ 404 กิโลแคลอรี กินมาก เสี่ยงอ้วน

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เทศกาลไหว้พระจันทร์ เป็นเทศกาลของชาวจีนสำหรับระลึกถึงเทพธิดาแห่งพระจันทร์ โดยสิ่งที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลนี้ คือขนมไหว้พระจันทร์ที่ใช้เป็นเครื่องเซ่นไหว้ แต่ขนมไหว้พระจันทร์มักมีแป้งและน้ำตาลเป็นส่วนประกอบหลัก อีกทั้งยังมีน้ำมัน น้ำเชื่อม และเมื่อมาผสมกับไส้ต่าง ๆ ที่มีรสชาติหวาน จึงทำให้เป็นขนมที่ให้พลังงานสูงมาก

ขนมไหว้พระจันทร์

ขนมไหว้พระจันทร์แคลอรีสูง

โดยปกติขนมไหว้พระจันทร์ขนาด 1 ชิ้น มีน้ำหนัก 166 กรัม ให้พลังงานสูงถึง 614-772 กิโลแคลอรี ซึ่งสูงกว่าอาหารมื้อหลักอย่างเช่น ข้าวผัดหมู ผัดไทยกุ้งสด ข้าวผัดกะเพราไก่ไข่ดาว หรือเส้นใหญ่ผัดซีอิ๊ว 1 จาน แม้จะตัดแบ่งออกเป็นส่วน ๆ ได้ 6 ชิ้นเล็ก ๆ ก็ยังให้พลังงานถึง 96-120 กิโลแคลอรี

ซึ่งจากข้อมูลแสดงคุณค่าทางโภชนาการของขนมไหว้พระจันทร์ไส้ต่าง ๆ ในปริมาณ 100 กรัม พบว่า แต่ละไส้ให้พลังงานแตกต่างกัน หากเป็นไส้พุทราให้พลังงาน 338 กิโลแคลอรี ไส้ทุเรียนให้พลังงาน 345 กิโลแคลอรี ไส้ทุเรียนและไข่ให้พลังงาน 375 กิโลแคลอรี ไส้เม็ดบัวให้พลังงาน 384 กิโลแคลอรี และไส้เม็ดบัวและไข่ให้พลังงาน 404 กิโลแคลอรี ตามลำดับ

ขนมไหว้พระจันทร์

“ในช่วงเทศกาลดังกล่าวประชาชนมักนิยมเลือกซื้อขนมไหว้พระจันทร์เป็นของฝากผู้ใหญ่หรือซื้อมากินกันภายในบ้าน จึงแนะนำให้กินขนมไหว้พระจันทร์อย่างเหมาะสม ไม่ควรกินทีเดียวหมดทั้งชิ้นในวันเดียวและควรเลี่ยงกินขนมหวาน ของหวานประเภทอื่นหรือเครื่องดื่มรสหวานต่าง ๆ หลังจากกินขนมไหว้พระจันทร์ เนื่องจากอาจจะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานที่มากเกินความต้องการ ซึ่งแป้งและน้ำตาลจากขนม จะเปลี่ยนไปเป็นไขมันส่วนเกินสะสมตามร่างกาย หากขาดการออกกำลังกาย มีผลทำให้น้ำหนักเพิ่ม อ้วนลงพุง และทำให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมา” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

ทั้งนี้ สิ่งที่ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง คือ ก่อนกินขนมไหว้พระจันทร์ทุกครั้ง ต้องดูวันผลิตหรือวันหมดอายุ รวมทั้งสังเกตกลิ่นและสีของขนมว่าผิดปกติหรือไม่หากพบว่ามีกลิ่นและสี ที่เปลี่ยนไป ควรงดบริโภคทันทีเพื่อความปลอดภัย

ขนมไหว้พระจันทร์

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo