General

ราชทัณฑ์ เปิดสาเหตุย้าย ‘ผู้กำกับโจ้-พวก’ เข้าคุกคลองเปรม แทนเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

“ราชทัณฑ์” แจงสาเหตุย้าย “ผู้กำกับโจ้” พร้อมพวก รวมทั้งหมด 7 คน เข้าเรือนจำกลางคลองเปรม  ระบุ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ยังมีปัญหาเรื่องโควิด รับผู้ต้องขังใหม่ไม่ได้ 

วันนี้ (3 ก.ย.) นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีการย้ายตัว พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผกก.โจ้ และพวกอีก 6 คน ได้แก่ พ.ต.ต.วิโรจน์ ดิษทอง, ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค, ร.ต.ท. ธรนินทร์ มาศวรรณา, ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว, ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น และ ส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว เข้ามาคุมขังที่เรือนจำกลางครองเปรม  กรุงเทพมหานคร

ผู้กำกับโจ้

นายธวัชชัย ระบุว่า นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้เดินทางเข้าติดตามควบคุมการรับตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ด้วยตัวเอง ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้ย้ายผู้ต้องหาดังกล่าวจากเรือนจำกลางพิษณุโลก เข้ามาอยู่ภายใต้การควบคุม ในเขตพื้นที่กองบังคับการปราบปราม และต้องส่งตัวเข้าควบคุม ที่ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

ยังย้าย ผู้กำกับโจ้ เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไม่ได้ 

แต่เนื่องจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ยังไม่สามารถรับผู้ต้องขังเข้าใหม่ได้ เพราะยังคงมีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 ภายในเรือนจำ อีกทั้งยังไม่ได้ถูกประกาศให้เป็นเรือนจำสีขาว ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ของกรมราชทัณฑ์ จึงจำเป็นต้องนำตัวทั้ง 7 ราย เข้าควบคุมที่เรือนจำกลางคลองเปรม ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในเรือนจำของ ศบค.รท. และกระทรวงสาธารณสุข

นายธวัชชัย อธิบายเพิ่มเติมว่า สำหรับขั้นตอนการรับตัว เมื่อมาถึงเรือนจำกลางคลองเปรมทั้ง 7 ราย ในฐานะเป็นผู้ต้องขังเข้าใหม่ จะต้องเข้าสู่กระบวนการรับตัว ตามมาตรฐานการปฏิบัติงานของเรือนจำ (SOPs) อย่างเคร่งครัด และต้องได้รับการตรวจสุขภาพร่างกาย คัดกรองโรคตรวจหาเชื้อโควิด-19 และกักตัว อยู่ในสถานที่กักกันโรคเป็นระยะเวลา 21 วัน ตามมาตรฐานการดำเนินงานด้านสาธารณสุข

โดยกรมราชทัณฑ์จะปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เสมอภาค ภายใต้กรอบของกฎหมายและมาตรฐาน ตลอดจนเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo