General

ศาลอนุญาตโอนตัว ‘ผู้กำกับโจ้-ลูกน้อง’ รวม 7 คน ขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ

ศาลอนุญาตโอนฝากขัง ผกก.โจ้กับลูกน้องรวม 7 คน จากเรือนจำกลางพิษณุโลก ไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อความสะดวกในการสอบสวน

วันนี้ (1 ก.ย.) ศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบภาค 6 พนักงานสอบสวนตามคำสั่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยื่นคำร้องขอโอนการฝากขัง ผู้ต้องหารวม 7 คน ประกอบด้วย

  • พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนพล หรือ ผู้กำกับโจ้
  • พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง
  • ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค
  • ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา
  • ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น
  • ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว
  • ส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว

ผู้กำกับโจ้

แต่เดิมนั้น มีการยื่นฝากขัง ผู้ต้องหาทั้งเจ็ด ครั้งแรก ต่อศาลจังหวัดนครสวรรค์ ที่ดำเนินการแทนศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบภาค 6 โดยศาลได้อนุญาตให้ฝากขัง ผู้ต้องหา ที่ 1-7 มีกำหนด 12 วัน จะครบกำหนดการฝากขังครั้งที่ 1 ในวันที่ 5 กันยายน และ 7 กันยายน ตามลำดับ

แต่เนื่องจากคดีดังกล่าว ผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจในสังกัด สภ.เมืองนครสวรรค์ท้องที่เกิดเหตุ และเป็นกรณีข้าราชการตำรวจ ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่า กระทำผิดอาญา มีพฤติกรรมกระทำผิดร้ายแรง เป็นคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมาก สร้างความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกทั้งยังเป็นคดีที่ได้รับความสนใจจากประชาชน และสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ให้ทำการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว และให้โอนสำนวนการสอบสวนจาก สภ.เมืองนครสวรรค์ไปสอบสวนยังกองบังคับการปราบปราม ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

ดังนั้น เนื่องจากคดีนี้ เป็นคดีที่อยู่ในเขตอำนาจศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติชอบภาค 6 คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน จึงขอโอนการฝากขัง ผู้ต้องหา ที่ 1-7 จากศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบภาค 6 ไปฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบกลาง และขอโอนการขังผู้ต้องหาระหว่างสอบสวน จากเรือนจำกลางพิษณุโลก ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อสะดวกในการสอบสวน และดำเนินการตามกฎหมาย

ผู้กำกับโจ้

ทั้งนี้ อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 มาตรา 6 วรรคหนึ่ง ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิ.อ.) มาตรา 87 วรรคท้าย

ศาลพิจารณาแล้ว อนุญาตให้โอนการฝากฝากขังผู้ต้องหาตามคำร้องดังกล่าว

ค้นห้องพักอดีตผู้กำกับโจ้ คลี่คลายประเด็นป่วยไบโพลาร์

วันเดียวกันนี้ มีรายงานด้วยว่า ตำรวจได้เข้าค้นห้องพัก ของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หลังมีกระแสข่าวว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ก่อเหตุดังกล่าวขึ้นมา เพราะมีอาการป่วยด้วยโรค “ไบโพลาร์”  โดยการเข้าค้นครั้งนี้ เพื่อหายารักษาโรค นำมาประกอบในสำนวนการสอบสวน

ผลการตรวจสอบพบยาดังต่อไปนี้ 

  1. ยา clonazepam เป็นยาคลายเส้นประสาท คลายเครียด ช่วยให้นอนหลับ ต้องใช้ใบสั่งยา/จ่ายโดยแพทย์
  2. ยา propranolol เม็ดสีชมพู เป็นยาขยายหลอดเลือด ช่วยเรื่องใจสั่น ลดความดัน
  3. ยา dymista       เป็นยาพ่นจมูกรักษาภูมิแพ้ มีขายทั่วไป
ทั้งหมดไม่ใช่ยารักษาไบโพลาร์ แต่ทั้งนี้ จะนำให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบุอีกครั้ง

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo