General

ย้อนรอยเรื่องฉาวสีกากี ‘ผู้กำกับโจ้’ ฆ่าโหด รีดเงิน 2 ล้าน ผู้ต้องหายาเสพติด

กลายเป็นเรื่องอื้อฉาว ที่สร้างรอยด่าง ให้กับวงการสีกากีอีกครั้ง กับเรื่องของ “ผู้กำกับโจ้” พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล  ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ นายตำรวจหนุ่มคนดัง ที่ถูกกล่าวหาว่า กระทําผิดวินัยอย่างร้ายแรง จนถูกตั้งกรรมการสอบสวน กรณีถูกร้องเรียนว่าได้ทําร้ายร่างกายโดยการทรมาน นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด เพื่อเรียกเงิน จํานวน 2 ล้านบาท จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต

เรื่องฉาวครั้งนี้ ถูกตีแผ่ออกมาเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา จากการที่ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพจ “ทนายคลายทุกข์” ระบุว่า มีตำรวจร้องเรียนมาว่า เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 2 คน เป็นชาย และหญิง จากจังหวัดชัยนาท พร้อมยาบ้าหลักแสนเม็ด จากนั้นได้นำตัวมาที่ สภ.เมืองนครสวรรค์

ผู้กำกับโจ้

ผู้ร้องเรียนอ้างว่า มีการเรียกเงินจากผู้ต้องหาทั้งสองคนจำนวน 1 ล้านบาท จนผู้ต้องหายอมจ่าย 1 ล้านบาท แต่มีนายตำรวจยศ พ.ต.อ. คนหนึ่ง ไม่ยอม บอกว่า ต้องการ 2 ล้านบาท หลังจากนั้น พ.ต.อ.คนดังกล่าว ได้นำถุงดำมาคลุมหัวผู้ต้องหาชาย จนขาดอากาศหายใจเสียชีวิต แล้วนำศพส่งโรงพยาบาล บังคับลูกน้องให้บอกกับหมอว่า  เสพยาเกินขนาดตาย พร้อมปล่อยตัวผู้ต้องหาหญิงไป โดยสั่งให้ไม่ต้องพูดอะไรเพื่อแลกกับอิสรภาพ ไม่ต้องถูกดำเนินคดียาเสพติด

เมื่อผลชันสูตรศพออกมาในวันที่ 6 สิงหาคม  ชุดจับกุมที่เป็นตำรวจชั้นผู้น้อย ทนไม่ได้ จึงร้องเรียนมาที่ “ทนายคลายทุกข์” และพร้อมให้ปากคำ โดยผู้ร้องเรียน อ้างด้วยว่า พ.ต.อ. คนดังกล่าวได้เรียกพ่อของผู้ตายมาพบ เพื่อเคลียร์คดีให้จบ

ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนั้น พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องข้างต้นว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ทราบเรื่องแล้ว สั่งการให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์  นายตำรวจที่ถูกกล่าวหา ย้ายไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ภ.6 ไว้ก่อน เพื่อไม่เป็นอุปสรรคต่อการตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่

หากพบว่ามีการกระทำผิดจริง ผู้กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินการทางวินัย และถูกดำเนินคดีอาญาตามกฎหมายต่อไป

ผู้กำกับโจ้

“ผู้กำกับโจ้” ปฏิเสธทำร้าย-รีดเงิน 

ทางด้าน พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือ “ผู้กำกับโจ้” ผู้ถูกกล่าวหา ออกมายืนยันว่า ไม่ได้มีการซ้อม หรือทำร้ายใด ๆ จนทำให้เกิดการเสียชีวิต รวมถึง ไม่เคยมีการเรียกร้องเงินทองใด ๆ  พร้อมอ้างว่า ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิต ทราบดีว่า ผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัว 

ท่าทีดังกล่าว สอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาของบิดาผู้เสียชีวิต ที่บอกว่า ลูกชายเกิดอาการน็อก เพราะพักผ่อนน้อย สูบบุหรี่มาก ร่างกายอ้วน เป็นโรคหัวใจและเบาหวาน ทั้งยังบอกด้วยว่า ข่าวตำรวจจับยาเสพติด แล้วเรียกเงิน พร้อมทั้งทำให้ลูกชายเสียชีวิต ไม่เป็นความจริง ตำรวจช่วยนำตัวลูกชายส่งโรงพยาบาล

บิดาของผู้เสียชีวิต ยังระบุว่า ในฐานะพ่อ ต้องบอกว่าเสียใจกับการเสียชีวิตของลูกชาย แต่ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงตามข่าว

การที่บิดาผู้เสียชีวิตออมายืนยันด้วยตัวเองดังกล่าว ทำให้ดูเหมือนว่า การร้องเรียนครั้งนี้อาจจะไม่เป็นความจริง และเรื่องราวเป็นไปตามที่ “ผู้กำกับโจ้” ออกมาชี้แจง

ผู้กำกับโจ้

เปิดคลิป “ผู้กำกับโจ้” คลุมหัวฆ่าโหดผู้ต้องหา

อย่างไรก็ดี เรื่องราวกลับพลิกผันอีกครั้ง คราวนี้เรียกได้ว่า ดังสนั่นไปทั่วประเทศ จากการที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความชื่อดังอีกรายหนึ่ง ได้นำคลิปจากกล้องวงจรปิด โพสต์ขึ้นบนเฟซบุ๊กเพจ “ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ” เมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยอ้างว่า เป็นผู้กำกับรายหนึ่ง กับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

นายษิทรา อ้างว่า ได้รับคลิปดังกล่าวมาจากตำรวจชั้นผู้น้อย ขอให้ช่วยนำคลิปนี้ มอบให้แก่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเห็นแล้วก็พูดไม่ออก อยากให้ทุกคนดูด้วยตาของตัวเอง ทั้งนี้ในคลิปดังกล่าวมีคนลงมือกระทำมากกว่า 4 คน โดยใช้ถุงคลุมหัวคนที่คาดว่าเป็นผู้ต้องหา และมีการทุบทำร้ายร่างกาย

คลิปดังกล่าวกลายเป็นชนวนที่ทำให้คนหันมาสนใจคดีนี้อีกครั้ง โดยยังไม่ทันข้ามวัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ โดยต้องการสอบสวนให้ถึงที่สุด และต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียชีวิต

ผบ.ตร. ลงนามคำสั่งกลางดึก ให้ออกจากราชการไว้ก่อน

ล่าสุด ในช่วงกลางดึกวันที่ 24 สิงหาคม พล.ต.อ.สุวัฒน์ ผบ.ตร. ก็ได้ ลงนามในคําสั่งสํานักงานตํารวจแห่งชาติที่ 407/2565 ให้ “ผู้กำกับโจ้” พ.ต.อ. ธิติสรรค์ ออกจากราชการไว้ก่อน 

ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าที่จะลงนามในคำสั่งนั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ โดยบอกว่า เสียใจต่อสิ่งเกิดขึ้นในคลิป  และขอฝากเป็นอุทาหรณ์ ให้กับเพื่อนข้าราชการตำรวจทุกคน ให้ดูไว้ ดูไว้ให้เป็นตัวอย่าง ทำอะไรที่ไม่ดี ไม่มีทาง ไม่มีทาง ที่จะพ้นไปได้เลย และสิ่งที่ตามมาก็สร้างความเสียหาย

“นิ้วไหนไม่ดี ก็ต้องตัดทิ้ง คนส่วนใหญ่จะได้เดินต่อได้ ผมเชื่อว่าตำรวจส่วนใหญ่ยังดี ยังดีอยู่ แต่คนที่ทำไม่ดี ทำเลว ๆ ก็ต้องรับผลกรรมที่ท่านทำลงไป  เราก็ไม่สามารถจะเอาคนแบบนี้ไว้ได้นะครับ”

ผู้กำกับโจ้

ตำรวจหนุ่มไฮโซ ฉายา “โจ้ เฟอร์รารี”

พ.ต.อ. ธิติสรรค์ หรือ ผู้กำกับโจ้  เป็น นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 41 นักเรียนนายร้อยรุ่น 57  โดยมีฉายาว่า “โจ้ เฟอร์รารี่” เพราะเขาเป็นเจ้าของรถสปอร์ตยี่ห้อหรูหลายคัน รวมถึง เฟอร์รารี  และ ลัมบอร์กินี รุ่น Aventador LP 720-4 50 Anniversario” ที่ทั่วโลกมีอยู่ 100 คันเท่านั้น และ ผู้กำกับโจ้ เป็นเจ้าของคันแรกในประเทศไทย โดยรถคันนี้ มีสนนราคาประมาณ 46 ล้าน

เขายังเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในวงการบันเทิงไทย เพราะเคยเป็นอดีตคนรู้ใจ ของนักแสดงสาวแถวหน้า ถึงขั้นมีข่าวขอแต่งงานกันมาแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ได้เลิกรากันไปจากประเด็นที่ ผู้กำกับโจ้ มีภรรยา และลูกอยู่แล้ว ทั้งในปัจจุบัน ยังคบหาดูใจอยู่กับ “ใบเตย” พรพจี ศิริสิทธิ์ พิธีกรบันเทิง ที่สาวเจ้าเคยให้สัมภาษณ์ถึงแฟนหนุ่มของเธอว่า “เขาเป็นคนซื่อมาก ซื่อจนมองว่า อยู่บนโลกนี้ได้ยังไง ไม่มีอะไรซับซ้อน แสดงออกชัด”

ในด้านการทำงานนั้น เขาได้ติดยศ พ.ต.ท. ในฐานะตำรวจปราบปรามยาเสพติดมือฉมัง จากการทำผลงานด้านปราบปรามยาเสพติด และการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติอย่างต่อเนื่อง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo