General

เตรียมให้พร้อม! ชำระภาษีรถประจำปี ล่วงหน้า ง่ายๆ แค่ 3 ขั้นตอน

ชำระภาษีรถประจำปี ล่วงหน้า กรมการขนส่งทางบก แนะ 3 ขั้นตอน ชวนชำระผ่านออนไลน์ รอรับเครื่องหมายการเสียภาษีที่บ้าน หมดปัญหาติดวันหยุดต่อภาษีไม่ทัน

นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดี กรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากการที่กฎหมายกำหนด ให้รถทุกคัน ที่จะนำมาใช้งานบนท้องถนนได้ จะต้องจดทะเบียนถูกต้อง และต้อง ชำระภาษีรถประจำปี ทุกปี โดยวันครบกำหนดชำระภาษีรถประจำปีของรถแต่ละคัน จะไม่ตรงกัน ขึ้นอยู่กับวันจดทะเบียน ของรถคันนั้น ๆ

22 1

กรมการขนส่งทางบก จึงแนะนำการวางแผนชำระภาษีรถประจำปี เพื่อให้เจ้าของรถ เตรียมการ และสามารถดำเนินการ ชำระภาษีรถประจำปี ได้ทันเวลาอย่างง่ายดาย เพียง 3 ขั้นตอน ด้งนี้

1. ตรวจสอบวันครบอายุภาษีรถประจำปี ซึ่งจะตรงกับวันที่ และเดือน ในการจดทะเบียนรถครั้งแรก โดยตรวจสอบได้จากคู่มือรถ หรือ เครื่องหมายการเสียภาษี หรือ เข้าเว็บไซต์ชำระภาษีรถออนไลน์ ของกรมการขนส่งทางบก https://eservice.dlt.go.th/

จากนั้น เลือกเมนู สอบถามข้อมูลค่าภาษีรถประจำปี ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ ทั้งวันครบอายุภาษีรถ อัตราค่าภาษีที่ต้องชำระ และหากเป็นรถที่เข้าข่าย ต้องนำไปตรวจสภาพรถก่อน จะปรากฏข้อมูล แจ้งให้เจ้าของทราบด้วย

2. เตรียมเอกสารหลักฐาน ประกอบด้วย คู่มือรถฉบับจริง หรือ สำเนา, จัดทำประกันภัย ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และหากเป็นรถที่เข้าข่าย ต้องตรวจสภาพ ให้นำเข้าตรวจกับสถานตรวจสภาพรถเอกชนให้เรียบร้อยก่อน

ตัวอย่างเช่น รถยนต์ ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป รถจักรยานยนต์ ที่มีอายุการใช้งานครบ 5 ปีขึ้นไป หรือ รถที่ติดตั้งแก๊ส ต้องมีหนังสือรับรองการตรวจสอบ และทดสอบ ตามระยะเวลาที่กำหนด

3. ชำระภาษีรถประจำปีล่วงหน้า กรมการขนส่งทางบก อำนวยความสะดวก ให้สามารถชำระภาษีรถประจำปี ได้ล่วงหน้า 90 วันก่อนครบอายุภาษี

ต่อภาษี

ดังนั้น หลังจากทราบวันครบอายุภาษี เตรียมเอกสารหลักฐานเรียบร้อยแล้ว ควรดำเนินการชำระภาษีล่วงหน้า โดยมีช่องทางให้เลือกใช้บริการ หลายช่องทาง

สำหรับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ รถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 7 ปี และ รถจักรยานยนต์ ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 5 ปี ไม่มีภาษีค้างชำระหรือค้างชำระไม่เกิน 1 ปี มีช่องทางชำระได้หลายช่องทาง ดังนี้

  • ชำระผ่านเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th
  • แอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax ดาวน์โหลด iOS : https://apple.co/3iAx6Dd แอนดรอยด์ : https://bit.ly/2XXQLVT
  • เคาน์เตอร์เซอร์วิส
  • โมบายล์แอปพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet
  • ตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk)

ส่วนรถที่เข้าข่าย ต้องตรวจสภาพก่อนชำระภาษี แนะนำบริการเลื่อนล้อ ต่อภาษี (Drive Thru for Tax) ชำระภาษีโดยไม่ต้องลงจากรถ, บริการช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax) รับชำระภาษี ที่ห้างสรรพสินค้า ในวันเสาร์-อาทิตย์, ที่ทำการไปรษณีย์, ธนาคารพาณิชย์ ที่ร่วมโครงการกับ กรมการขนส่งทางบก หรือ ที่สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ

กรณีที่ มีการชำระภาษีรถประจำปีล่าช้า จะมีค่าปรับ ร้อยละหนึ่งต่อเดือน และหากไม่ดำเนินการ ชำระภาษีรถประจำปีติดต่อกัน เกิน 3 ปี จะส่งผลให้ทะเบียนรถ ถูกระงับ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการ ทางทะเบียนรถได้ ทั้งการโอนเปลี่ยนชื่อ แจ้งเปลี่ยนสี แก้ไขรายการคู่มือรถ เป็นต้น ทำให้เกิดปัญหา และความยุ่งยากในภายหลัง

“ขอให้เจ้าของรถ ดำเนินการชำระภาษีรถประจำปี ให้เรียบร้อย ส่วนเจ้าของรถ ที่หยุดใช้รถ เลิกใช้รถ หรือ รถชำรุดสูญหาย เป็นเหตุให้รถใช้งานไม่ได้ทุกกรณี ให้แจ้งการไม่ใช้รถ ณ สำนักงานขนส่ง ที่รถนั้นจดทะเบียนอยู่ เพื่อไม่ให้มีภาระต้องชำระภาษีประจำปี”นางจันทิรา กล่าว

สำหรับสถิติการให้บริการชำระภาษีรถประจำปี ในเขตกรุงเทพมหานคร เดือนตุลาคม 2563 มีผู้ใช้บริการจำนวนทั้งสิ้น 458,923 คัน แบ่งเป็น การใช้บริการรับชำระภาษีรถประจำปี ณ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 มากที่สุด จำนวน 330,797 คัน รองลงมาคือ การใช้บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) จำนวน 65,103 คัน ชำระภาษีรถประจำปีที่ห้างสรรพสินค้าในวันเสาร์-อาทิตย์ จำนวน 29,242 คัน

การชำระผ่านเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th/ จำนวน 20,484 คัน ศูนย์บริการร่วมคมนาคมเชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน จำนวน 3,756 คัน เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำนวน 7,777 คัน ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 782 คัน ผ่านแอปพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet จำนวน 395 คัน ตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) จำนวน 351 คัน

ในส่วนของบริการชำระภาษีผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax มีผู้ใช้บริการจำนวน 221 คัน และผ่านธนาคารพาณิชย์ที่ร่วมโครงการ จำนวน 15 คัน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo