General

หนุ่มอินเดีย ติดโควิด เปิดไทม์ไลน์ มีผู้สัมผัสกว่า 290 ราย

หนุ่มอินเดีย ติดโควิด จ.กระบี่ พบมีผู้สัมผัสผู้ป่วยรวม 290 ราย เป็นกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 79 ราย เสี่ยงต่ำ 211 ราย เดินทาง กระบี่ ภูเก็ต เชียงใหม่ สุโขทัย

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา แถลงความคืบหน้ากรณีพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 เป็น หนุ่มอินเดีย ติดโควิด อายุ 37 ปี พักอายุที่เกาะพีพี จ.กระบี่ มีประวัติเดินทางหลายจังหวัด

เดินทาง New Normal ๒๐๑๑๐๘

ทั้งนี้ ทีมสอบสวนโรค ได้ประสานงานกันทั้งส่วนกรมควบคุมโรค สำนักงานป้องกันควบคุมโรค (สคร.)ที่เกี่ยวข้อง คือ สคร.11 จ.นครศรีธรรมราช สคร.1 จ.เชียงใหม่ และ สคร.2 จ.พิษณุโลก ร่วมถึงสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ได้แก่ กระบี่ ภูเก็ต เชียงใหม่ และสุโขทัย ประชุมร่วมกันเพื่อแบ่งหน้าที่สอบสวนโรค

ข้อมูลผลการตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง พบว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ผู้ติดเชื้อได้ตรวจหาเชื้อวิธี RT-PCR ที่โรงพยาบาล (รพ.) เอกชน ใน จ.กระบี่ และส่งตรวจที่ห้องปฏิบัติการ (แล็บ) ที่ รพ.กรุงเทพสิริโรจน์ จ.ภูเก็ต เพื่อทำใบขออนุญาตทำงาน (work permit) ผลพบเชื้อ จึงส่งตรวจยืนยันที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 11 ผลตรวจพบเชื้อเช่นเดียวกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างถอดรหัสพันธุกรรม และหาว่าเชื้อที่พบยังมีชีวิตหรือมีความสามารถแพร่เชื้อได้หรือไม่

หลังจากนั้น ผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาที่ รพ.กระบี่ เมื่อวันที่ 6 พ.ย.ได้ตรวจหาเชื้อซ้ำ ผลตรวจไม่พบเชื้อ ซึ่งจากค่าผลแล็บในวันที่ 4 พ.ย. ที่พบเชื้อในปริมาณน้อยมาก ดังนั้นการตรวจซ้ำอาจจะไม่พบเชื้อ เนื่องจากเป็นการติดเชื้อมาในระยะที่นานพอสมควร

โควิด

รวมถึงการเจาะเลือดตรวจหาภูมิคุ้มกันพบว่า ให้ค่า IgG ซึ่งหมายถึงมีการติดเชื้อมาระยะหนึ่งแล้ว ราว 1-2 สัปดาห์ หรือมากกว่านั้น ซึ่งค่า IgG ในบางรายอยู่นานถึง 3 เดือน อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้เป็นการติดเชื้อโควิด-19 อย่างแน่นอน และอยู่ในระหว่างการสอบสวนโรค และค้นหาผู้สัมผัส

เปิดไทม์ไลน์ กระบี่ ภูเก็ต เชียงใหม่ สุโขทัย

ทั้งนี้พบว่า ผู้ติดเชื้อมาเมืองไทยตั้งแต่เดือน เมษายน 2562 จากนั้นได้เดินทางออกไปต่างประเทศในช่วงเดือนตุลาคม 2562 ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ เดินทางกลับมาในไทย และไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศอีก โดบเปิดร้านอาหารกับภรรยาที่เกาะพีพี

จากการค้นหาผู้สัมผัส ได้เริ่มติดตามตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม เนื่องจากผู้ป่วย แจ้งโณงพยาบาลว่า มีอาการไอ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน จึงสอบสวนโรคย้อนไป 14 วัน และทำการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก ย้อนหลังกลับไป และดูว่า เดินทางไปไหนบ้าง พบว่า

ไทมไลน์

วันที่ 19-27 ตุลาคม อยู่ที่เกาะพีพี

วันที่ 28 ตุลาคม เดินทางนั่งเรือจากเกาะพีพีไป อ.เมือง จ.กระบี่ และพักบ้านน้องชาย ซึ่งมีภรรยาของน้องชายและหลานสาวอยู่ด้วย

วันที่ 29 ตุลาคม ได้เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวไป จ.ภูเก็ต พักที่โรงแรมที่หาดป่าตอง พบเพื่อนชาวอเมริกัน 1 ราย ซึ่งอยู่ในระหว่างติดตาม หลังจากนั้นไปรับประทานอาหารตรงข้ามโรงแรม ซึ่งอยู่ในระหว่างติดตามเช่นเดียวกัน

วันที่ 30 ตุลาคม เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวพร้อมเพื่อนชาวไทย 1 ราย ไปสนามบินภูเก็ต และเดินทางไปยัง จ.เชียงใหม่ ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD3167 เมื่อถึงสนามบินใช้บริการรถแท็กซี่เดินทางไปพักใน อ.เมือง หลังจากนั้นได้ไปเที่ยวในสถานบันเทิงกับเพื่อนชาวไทย ซึ่งอยู่ระหว่างติดตามกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ซึ่งในกรณีนี้จะติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเป็นหลัก เนื่องจากผู้ติดเชื้อมีการติดเชื้อมาระยะหนึ่งแล้ว

วันที่ 31 ตุลาคม เช่ารถยนต์จากโรงแรมใน จ.เชียงใหม่ เดินทางไป จ.สุโขทัย พร้อมเพื่อนชาวไทยที่เดินทางมาพร้อมกันจาก จ.ภูเก็ต ด้วยกัน แวะปั๊มน้ำมัน ลอยงานลอยกระทง แต่ในการจัดมีการวัดอุณหภูมิร่างกาย ให้สวมหน้ากากอนามัย

ดังนั้นหากผู้เข้าร่วมงานสวมหน้ากากอนามัย ก็จะสบายใจได้ว่าไม่ใช่ผู้สัมผัส อีกทั้งขณะนั้นผู้ติดเชื้อยังไม่มีอาการป่วย จึงมั่นใจได้ว่าในงานลอยกระทงจะไม่มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง

วันที่ 1 พฤศจิกายน ช่วงเช้ารับประทานอาหารที่โรงแรม ใน จ.สุโขทัย อาหารกลางวันที่ร้านอาหารภายใน จ.สุโขทัย หลังจากนั้นแวะเที่ยววัดในเมืองก่อนขับรถกลับ จ.เชียงใหม่

วันที่ 2 พฤศจิกายน เดินทางกลับ จ.ภูเก็ต โดยคืนรถเช่าที่สนามบินและเดินทางกลับด้วยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD1968 เมื่อถึง จ.ภูเก็ต แล้วได้ขับรถยนต์ส่วนตัวเข้าพักในโรงแรมใน อ.หาดป่าตอง กับเพื่อนชาวไทยคนเดิม

วันที่ 3 พฤศจิกายน ได้รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม และแยกย้ายกับเพื่อน ผู้ติดเชื้อได้เดินทางไปรับประทานอาหารในห้างสรรพสินค้า อ.เมือง จ.ภูเก็ต แล้วหลังจากนั้น ได้ขับรถยนต์ส่วนตัวไปบ้านน้องชายที่ จ.กระบี่ เป็นครั้งที่ 2

วันที่ 4 พฤศจิกายน เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว พร้อมกับน้องชายไปยัง รพ.เอกชน เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทำ work permit หลังจากเก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อเสร็จได้นั่งเรือเฟอร์รี่กลับมาเกาะพีพี หลังจากนั้น รพ. ได้โทรแจ้งผลการตรวจว่า ผลตรวจพบเชื้อ ผู้ติดเชื้อจึงเดินทางกลับมา จ.กระบี่ ด้วยเรือ และรถโรงพยาบาลไปรับเพื่อเข้าสู่การรักษา

ในกรณีนี้มีผู้สัมผัสผู้ป่วยรวม 290 ราย เป็นกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 79 ราย ได้แก่

1. ครอบครัวเดียวกัน 4 ราย น้องชาย น้องสะใภ้ และหลานสาว ซึ่งให้ผลการตรวจเป็นลบ และกำลังรอผลการตรวจของภรรยา และจะครบกำหนดการสังเกตอาการในวันที่ 17 พ.ย.

2. ผู้สัมผัสในชุมชน รวม 5 ราย เป็นเพื่อน 3 ราย และพนักงานสนามบิน-โรงแรม อีก 2 ราย

3. ยานพาหนะ 64 ราย แบ่งเป็น ผู้โดยสารเครื่องบิน 45 ราย ครบกำหนดสังเกตอาการในวันที่ 13 และ 17 พ.ย. เรือเฟอร์รี่ 19 ราย ครบกำหนดสังเกตอาการในวันที่ 11 และ 18 พ.ย.

4. บุคลากรการแพทย์ 6 ราย ที่ รพ.เอกชน เป็นแพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล ล่าม เก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ครบกำหนดสังเกตอาการในวันที่ 18 พ.ย.

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 211 ราย คือ ผู้โดยสารเครื่องบิน 129 ราย ครบกำหนดสังเกตอาการ 13 และ 16 พฤศจิกายน., เรือเฟอร์รี่ 38 ราย ครบกำหนดสังเกตอาการ 11 และ 18 พฤศจิกายน และ บุคลากรการแพทย์ 16 ราย ครบกำหนดสังเกตอาการ 18 และ 20 พฤศจิกายน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo