General

‘ท่อก๊าซระเบิด’ สธ. ส่งอุปกรณ์ป้องกันลงพื้นที่ แนะประชาชนเฝ้าระวังอาการ

ท่อก๊าซระเบิด สธ. ลงพื้นที่ สอบสวนโรค ดูแล เฝ้าระวังสุขภาพประชาชนในพื้นที่ ส่งอุปกรณ์ป้องกัน แนะหากพบอาการผิดปกติ ให้พบแแพทย์รักษาทันที

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดี กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า กรณีเกิดเหตุการณ์ ท่อก๊าซระเบิด จากก๊าซธรรมชาติรั่ว และเกิดเพลิงไหม้ในพื้นที่อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ได้มอบหมายให้กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี (สคร.6 จ.ชลบุรี) ซึ่งดูแลพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ติดตามและประสานงาน กับหน่วยงานในพื้นที่อย่างใกล้ชิด

ท่อก๊าซระเบิด

ทั้งนี้ ทีมลงพื้นที่ จะเฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพ สอบสวนโรค และตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม รวมทั้ง สนับสนุนอุปกรณ์ ในการป้องกัน พร้อมทั้งให้ความรู้ และคำแนะนำในการป้องกันตนเอง แก่ประชาชน ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ต่อไป

ในเบื้องต้น กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม ได้สนับสนุนอุปกรณ์ ในการป้องกันตนเอง (หน้ากาก N 95 คาร์บอน) จำนวน 500 ชิ้น แก่หน่วยงานในพื้นที่

สำหรับ ก๊าซธรรมชาติ (NGV) นั้น เมื่อเกิดการรั่วไหล หากสูดดม หรือหายใจเข้าไป สะสมในปริมาณมาก จะก่อให้เกิดอาการหายใจติดขัดอย่างรุนแรง ปวดศีรษะ วิงเวียน และอาจหมดสติได้ และ หากสัมผัสถูกตาอาจก่อให้เกิดการระคายเคือง

นายแพทย์โอภาส

ขณะที่ก๊าซ NGV เบากว่าอากาศ จึงไม่มีการสะสม เมื่อเกิดการรั่วไหล แต่หากเกิดการติดไฟ จะเป็นอันตรายมาก ซึ่งองค์ประกอบการติดไฟ ต้องมี 3 อย่างคือ เชื้อเพลิง ประกายไฟ และอากาศ หากทั้ง 3 อย่างนี้ผสมกันพอดี ก็จะเกิดเพลิงไหม้ และ ถ้าไหม้ในที่อับอากาศ ก็จะเกิดเสียงดังขึ้น หรือ ที่เรียกว่าระเบิดนั่นเอง

ดังนั้น ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ที่เกิดเหตุดังกล่าว หากตนเอง หรือ คนในครอบครัว มีอาการ หายใจติดขัด ปวดศีรษะ วิงเวียน หรืออาการต่างๆ ที่สงสัยว่า ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะในช่วง 1 สัปดาห์นี้ (22-28 ต.ค. 63) ขอให้ไปพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาต่อไป

พร้อมกัน ขอความร่วมมือประชาชน ให้ช่วยกันดูแล เฝ้าระวัง สังเกต ในพื้นที่ ที่มีแนวท่อก๊าซ หากมีเหตุการณ์ผิดปกติ ขอให้แจ้งพนักงานในโรงงาน ผู้นำชุมชน หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการระงับเหตุดังกล่าวให้เร็วที่สุด

ท่อก๊าซ1

ด้านนายแพทย์สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพที่ 6 กล่าวว่า ได้ประสานหอผู้ป่วยไฟไหม้น้ำร้อนลวก กรณีต้องดูแลผู้ป่วย ที่มีอาการรุนแรงเพิ่มเติม ที่สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ บางพลี, รพ.รามาธิบดี พญาไท ,รพ.นพรัตน์ราชธานี กรมการแพทย์,รพ. ชลบุรี และ รพ.ระยอง

นอกจากนี้ ยังได้ประสานให้ กองโรคจากการประกอบอาชีพฯ และสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี ร่วมตรวจคุณภาพอากาศพื้นที่ โดยรอบจุดเกิดเหตุ และคัดกรอง ประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ ช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ และ ประชาชนในศูนย์อพยพ อบต.เปร็ง อ.บางบ่อ

อีกทั้งได้สนับสนุน หน้ากากคาร์บอน 200 ชิ้น หน้ากาก N 95 จำนวน 50 ชิ้น และหน้ากาก N 95 คาร์บอน จำนวน 60 ชิ้น รวมทั้งหมด 310 ชิ้น ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ที่อาจได้รับผลกระทบจาก ก๊าซ และ ควันไฟ ในพื้นที่

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo