General

‘ลอยกระทง’ ปลอดภัย มท.1 สั่งทุกจังหวัด เตรียมป้องกันอุบัติภัย

ลอยกระทง ปลอดภัย มท.1 สั่งการทุกจังหวัด เตรียมการป้องกันอุบัติภัย ช่วงวันลอยกระทง 2563 บูรณาการทุกภาคส่วนทุกพื้นที่ป้องกันอันตราย

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการไปยัง ผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ดำเนินการ มาตรการ ลอยกระทง ปลอดภัย ดังนี้

ลอยกระทง ปลอดภัย

  • ให้นายทะเบียนท้องที่ เข้มงวดกวดขัน การพิจารณาออกใบอนุญาต หรือต่ออายุใบอนุญาตให้ทำ สั่ง นำเข้า หรือค้าซึ่งดอกไม้เพลิง รวมทั้งตรวจสอบสถานที่เก็บ ทำ หรือค้าดอกไม้เพลิง ที่อาจเป็นอันตราย ต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ (พรบ.) อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 โดยเคร่งครัด
  • ให้ผู้อำนวยการหรือเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ตรวจตราอาคารสถานที่ ท่าเทียบเรือโดยสาร ที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง อาจก่อให้เกิดสาธารณภัยได้โดยง่าย พร้อมแจ้งหน่วยงานตามกฎหมายเข้าตรวจสอบ ซ่อมแซม ให้มั่นคงแข็งแรงตามอำนาจหน้าที่
  • ให้หน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และภาคเอกชนที่จะจัดงานวันลอยกระทง เตรียมการป้องกันและระมัดระวังเพื่อมิให้เกิดอุบัติภัย ด้วยการตรวจสอบ สิ่งปลูกสร้างภายในบริเวณงาน ให้มีความมั่นคงแข็งแรง และจัดให้มีอุปกรณ์ช่วยชีวิตทางน้ำ ในบริเวณใกล้เคียง สถานที่ลอยกระทง

ทั้งนี้ ให้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 โดยเคร่งครัด และสำหรับพื้นที่ภาคใต้ ให้เข้มงวด ในการดูแลสิ่งปลูกสร้าง ในบริเวณการจัดงาน ให้มีความมั่นคงแข็งแรง เนื่องจากมีโอกาสเกิดพายุฝนฟ้าคะนองและวาตภัย

  • ให้ผู้อำนวยการท้องถิ่นตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที
  • เข้มงวดกวดขัน ปฏิบัติตามกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับ การป้องกันอุบัติเหตุทางถนน โดยดำเนินการกับผู้กระทำผิด

นอกจากนี้ ยังวาง 10 มาตรการ เน้นหนักความปลอดภัยทางถนน ได้แก่ 1. ไม่สวมหมวกนิรภัย 2. สภาพยานพาหนะไม่พร้อมใช้งาน 3. เมาสุรา 4. ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 5. ไม่มีใบขับขี่ 6. ความเร็วเกินกําหนด 7. ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร 8. ขับรถย้อนศร 9. แซงในที่คับขัน และ 10. ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับรถ อย่างเคร่งครัด

สำหรับวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม 2563 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 เป็นวันลอยกระทง ตามประเพณีไทย โดยในหลายพื้นที่ ของจังหวัดและกรุงเทพมหานคร จัดให้มีสถานที่ ให้ประชาชนได้ลอยกระทงตามประเพณี ในช่วงเวลาที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา

ในเทศกาลดังกล่าว มักจะมีประชาชนนิยมเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เพื่อร่วมประเพณีฯ โดยเฉพาะสถานที่ริมน้ำ โป๊ะ ท่าเทียบเรือโดยสาร ฯลฯ ซึ่งมักจะเกิดอุบัติเหตุจากการจราจรทั้งทางบก ทางน้ำ ตลอดจนเหตุจากอัคคีภัยอยู่เป็นประจำ เกิดการสูญเสียชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนเป็นอย่างมาก

ขณะเดียวกัน ยังให้ทุกจังหวัด จัดชุดเจ้าหน้าที่ และสั่งใช้สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) โดยประสานการปฏิบัติ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายทหาร และเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า เฝ้าระวังสถานที่ ที่เสี่ยงเกิดอัคคีภัยและอุบัติภัยอื่น ๆ โดยเฉพาะอุบัติภัยทางน้ำ

พร้อมกันนี้ ให้จัดระเบียบ และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร การรักษาความสงบเรียบร้อย และเฝ้าระวังความปลอดภัย บริเวณที่ประชาชนหนาแน่น และเฝ้าระวังตรวจสอบความปลอดภัย ท่าเทียบเรือโดยสาร สถานที่ริมน้ำสำหรับใช้ลอยกระทง และเส้นทางคมนาคมทางน้ำ ที่เป็นจุดเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย รวมทั้งความปลอดภัยของเรือโดยสาร ให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด

สำหรับการดูแลป้องกัน ให้จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วพร้อมอุปกรณ์ดับเพลิง อุปกรณ์กู้ภัย ไฟฟ้าส่องสว่าง หน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน (EMS) เตรียมความพร้อมประจำ ณ สถานที่ที่มีผู้ไปร่วมลอยกระทง เพื่อให้ความช่วยเหลือได้ทันที

อีกประเด็นคือ ให้เร่งรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างความรับรู้เข้าใจกับประชาชนตลอดจนภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง แสดงออกในการประพฤติปฏิบัติตามแบบวัฒนธรรมอันดีงามแห่งท้องถิ่น และร่วมกันลอยกระทงตามประเพณีไทย งดเว้นการกระทำที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน

พร้อมทั้งเชิญชวนประชาชนจิตอาสาร่วมทำความสะอาด กำจัดขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกูล ตามสถานที่จัดงานและแหล่งน้ำ เพื่อช่วยรักษาความสะอาด ลดการเกิดสิ่งกีดขวางทางน้ำ และช่วยรักษาระบบนิเวศต่อไป

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยยังคงอยู่ในช่วงการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จึงได้เน้นย้ำให้ทุกจังหวัดกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามแนวทางประกาศกระทรวงวัฒนธรรม เรื่อง แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับเทศกาลประเพณีพิธีทางศาสนาและพิธีการต่าง ๆ กรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รวมทั้งมาตรการป้องกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดโดยเคร่งครัด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo