General

‘ศรีสุวรรณ’ ร้อง ปอท. เอาผิด ‘3 เพจกลุ่มราษฎร’ ละเมิด พรก.ฉุกเฉิน

เอาผิด 3 เพจกลุ่มราษฎร “ศรีสุวรรณ” บุกร้อง ปอท. พร้อมรายชื่อ URL โซเชียลมีเดีย ผู้แชร์ข้อมูลหรือส่งต่อข้อมูลต่างๆที่ผิดกฎหมาย เอาผิด ละเมิด พรก.ฉุกเฉิน

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคม องค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางไปยัง บก.ปอท. ศูนย์ราชการฯ โดยกล่าวว่า ได้เข้ามาเพื่อแจ้งความเอาผิด เอาผิด 3 เพจกลุ่มราษฎร ที่มีการนัดหมาย การชุมนุมสาธารณะ ในพื้นที่ต่าง ๆ ตั้งแต่ในอดีตมาจนถึงปัจจุบัน

เอาผิด 3 เพจกลุ่มราษฎร

ทั้งนี้เนื่องจาก การกระทำดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ และกระทบต่อ สิทธิและเสรีภาพ ของบุคคลอื่น ซึ่งไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 ม.34 โดยใช้ช่องทางการสื่อสาร ผ่านโซเชียลมีเดีย ประเภทต่าง ๆ รวมทั้ง มีการปลุกระดม ให้ประชาชน ละเมิดกฎหมายของบ้านเมือง จนเป็นเหตุให้มีการ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง มาตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2563 เป็นต้นมา

การใช้ช่องทางการสื่อสาร ผ่านโซเชียลมีเดีย ทั้ง เพจเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ โดยมี กลุ่มประชาชน กลุ่มเยาวชนปลดแอก และ กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ เป็นแกนนำ ในการกำหนดทิศทาง การชุมนุมสาธารณะ ที่ผิดกฎหมายว่า จะจัดการชุมนุมในบริเวณพื้นที่ใด เวลาใด ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ถือเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนด ที่ออกตามความใน ม.9 ประกอบ ม.11 แห่ง พ.ร.ก. การบริหารราชการใน สถานการณ์ฉุกเฉิน 2548

นอกจากนี้ ยังเป็นการฝ่าฝืน ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบ ในการแก้ไข สถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรง ฉบับที่ 4 เรื่อง ห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุม ซึ่งการฝ่าฝืนข้อห้าม ตามประกาศดังกล่าว มีการกำหนดโทษ จำคุกไม่เกินสองปี หรือ ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตามที่บัญญัติไว้ใน ม.18 แห่ง พรก. ดังกล่าวโดยชัดแจ้ง

ขณะเดียวกัน การใช้ช่องทางการสื่อสาร ผ่านโซเชียลมีเดียดังกล่าว ยังเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทําความผิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2560 ม.14 อีกด้วย ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

ศรีสุวรรณ 2

ที่สำคัญ ผู้ที่แชร์ หรือ เผยแพร่ หรือ ส่งต่อ ซึ่งการนัดหมายการชุมนุมในแต่ละวัน ในแต่ละพื้นที่ ก็ถือว่ามีความผิดตามไปด้วย เพราะถือว่าเป็น ข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยรู้อยู่แล้วว่า เป็น ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่ละเมิดกฎหมาย ก็ย่อมมีความผิด เทียบเท่ากับ เจ้าของเพจโซเชียลดังกล่าวด้วย

“โดยเฉพาะ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิด เกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือ ความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา”นายศรีสุวรรณ กล่าว

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความ พร้อมรายชื่อ URL ของเจ้าของโซเชียลมีเดียต่างๆ ทั้งเพจเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ รวมทั้งรายชื่อ ผู้ที่แชร์ข้อมูล หรือ ส่งต่อข้อมูลต่าง ๆ ที่ผิดกฎหมาย ไปร้องเรียนกล่าวโทษต่อ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)

ทั้งนี้ เพื่อติดตามเอาเจ้าของเพจ URL ที่ลงทะเบียนไว้ใน สื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ มาลงโทษ ตามครรลองของกฎหมายต่อไป รวมทั้งยังแจ้งความ เอาผิดเจ้าของเพจ ที่เข้าข่ายหมิ่นสถาบัน ตาม ปอ.112 อีกด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo