General

‘ครูจุ๋ม’ ดำเนินคดีพ่อแม่เด็กโดดถีบ สารสาสน์ ตั้ง ‘ทนายเดชา’ สู้คดี

ครูจุ๋ม สารสาสน์ ราชพฤกษ์ แจ้งความผู้ปกครอง เด็กนักเรียน ที่เข้าทำร้ายร่างกาย หลังเห็นคลิปลูกถูกทำร้าย ขณะ “เดชา กิตติวิทยานันท์ ” ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ เปิดตัว เป็นทนายอย่างเป็นทางการ ของโรงเรียนในเครือสารสาสน์ 

วันนี้ (4 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทนายความของโรงเรียนในเครือสารสาสน์อย่างเป็นทางการ เดินทางมายังสภ.ชัยพฤกษ์ จังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วย น.ส.อรอุมา ปลอดโปร่ง หรือ ครูจุ๋ม สารสาสน์ ราชพฤกษ์ เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายชาญวิทย์ น้อยสุขยิ่ง อายุ 37 ปี และภรรยา ผู้ปกครองของน้องเสือ เด็กนักเรียนอนุบาลที่ถูกครูจุ๋ม ทำร้ายร่างกาย

ครูจุ๋ม สารสาสน์

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ระหว่างการประชุมผู้ปกครอง ที่โรงเรียนสารสาสน์ วิเทศ ราชพฤกษ์ ซึ่งนายชาญวิทย์ และภรรยา เกิดอาการบันดาลโทสะ ระงับอารมณ์ไม่อยู่ พุ่งเข้าทำร้ายน.ส.อรอุมา หลังเห็นภาพจากกล้องวงจรปิด ที่น้องเสือถูกครูจุ๋มทำร้าย

น.ส.อรอุมา กล่าวว่า ตนขอโทษผู้ปกครอง และนักเรียนทุกคน ขอโทษผู้บริหารโรงเรียนสารสาสน์ทุกคน ตนรับสารภาพว่า ทำร้ายร่างกายเด็กจริง เพราะเกิดความเครียด ตอนนี้รู้สึกผิดมาก ตนต้องขอโทษสังคม

ส่วนเรื่องคดีความก็ให้ว่าไปตามกฏหมาย ตนทำผิดก็ขอยอมรับผิด และในตอนนี้ ก็ไม่ได้ติดต่อกับผู้ปกครองคนไหนเลย สภาพจิตใจตอนนี้ยังไม่โอเคเท่าไหร่ ยังรู้สึกเครียดอยู่ อันไหนที่ผิดก็ยอมรับผิด

ทางด้านนายเดชา กล่าวว่า วันนี้มาในนามโรงเรียนอย่างเป็นทางการ ตามที่พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกไป ซึ่งในวันนี้ ได้พา น.ส.อรอุมา ที่ถูกทำร้ายร่างกาย มาแจ้งความดำเนินคดีตามกฏหมาย ซึ่งในคดีนี้ ต้องว่าไปตามหลักฐานที่มี ใครผิดก็ว่าไปตามหลักฐาน

วันนี้ นำหลักฐานมายื่นให้พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีกับผู้ปกครอง 2 คนที่ทำร้ายร่างกาย น.ส.อรอุมา ตามที่ปรากฏในคลิป เมื่อวันประชุมที่โรงเรียน ซึ่งตนรับผิดชอบทุกคดีของโรงเรียนสารสาสน์ ราชพฤกษ์ทั้งหมด ตอนนี้มีประมาณ 30 คดีแล้ว มีครูต้องเป็นผู้ต้องหา 13 คน ในฐานะที่มาดูแลในเรื่อง คดีก็ว่าไปตามพยานหลักฐาน ว่ากันที่ศาล

นายเดชา บอกด้วยว่า เบื้องต้นได้รับมอบหมายจากผู้บริหารเครือสารสาสน์ ให้รับผิดชอบด้านคดี ของโรงเรียนสารสาสน์ราชพฤกษ์อย่างเป็นทางการ ในคดีที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยจะขอตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งหมด ที่ทางผู้ปกครองได้แจ้งความดำเนินคดีไว้ ทุกอย่างว่ากันไปตามความจริง ถ้าครู หรือพี่เลี้ยงคนไหนรับสารภาพก็ให้ดำเนินคดีไป ส่วนคนไหนที่ไม่ผิด ก็แก้ต่างกันในชั้นศาลตามข้อเท็จจริง

จากกรณีดังกล่าว ทนายนิด้า ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ครูจุ๋มแจ้งจับผู้ปกครอง ที่ตบหน้า และถีบกลางวง แถลงข่าว ท่านผู้ปกครองที่ถูกแจ้งจับถ้ามีทนายอยู่แล้วก็แล้วไป แต่ถ้าไม่มี ข้าพเจ้ายินดีเสนอตัว

ก่อนหน้านี้ “ครูจุ๋ม” เคยเปิดใจกับ “อมรินทร์ทีวี” โดยยอมรับว่า ได้กระทำความรุนแรงทำร้ายร่างกายเด็กจริง เนื่องจาก มีความเครียดเรื่องแม่ป่วยเบาหวาน ความดัน และโรคไต อีกทั้งต้องดูแลเด็ก 32 คน ซึ่งถือว่าเยอะ ประกอบกับเด็กนักเรียนไม่ฟัง และทำงานไม่ทัน เพราะการเรียนการสอนของเด็กอนุบาลต้องใช้สมุดงานเขียนเยอะ

“ตนทำรุนแรงกับเด็ก รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ แต่ทุกครั้งที่กระทำจะไม่รุนแรงถึงขั้นเลือดตกยางออก ตนยอมรับผิดที่เอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงาน แต่สิ่งที่กระทำลงไปเกิดจากความเครียดสะสม ไม่สามารถพูดคุยระบายความในใจกับใครได้ ตนไม่เคยมีพฤติกรรมที่ต้องการใช้ความรุนแรง ส่วนประเด็นที่ถูกผู้ปกครองอ้างว่า มีเด็กอ้วกแล้วตนโกยอ้วกให้เด็กทานเข้าไปอีกครั้งนั้น ไม่ใช่ความจริง ยืนยันว่าตนไม่เคยทำ

หลังจากเกิดเรื่อง ได้ถูกไล่ออกจากทางโรงเรียนแล้ว ถือว่า โรงเรียนทำถูกต้องแล้ว และทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ขอให้เป็นความผิดของตนเพียงคนเดียว ไม่เกี่ยวกับโรงเรียน ส่วนเรื่องจะรับผิดชอบ ต่อครอบครัวของเด็กอย่างไรนั้น ให้ผู้ปกครองดำเนินคดี ตามกฎหมายได้เลย เพราะผิดจริง

ทั้งนี้ ได้เข้าไปขอโทษกับผู้ปกครองของเด็กนักเรียนแล้ว ถึงแม้ว่ากลุ่มผู้ปกครอง จะบอกว่า ไม่ได้ขอโทษจากใจจริง ก็ไม่ถือโทษโกรธ และอย้ำว่า ขอโทษด้วยใจจริง ขณะนี้ อยากได้คำว่าให้อภัยจากปากของกลุ่มผู้ปกครอง แต่เข้าใจว่าคงจะไม่ได้รับ

กระแสสังคมที่เข้ามานั้น ราวกับไม่อยากให้มีพื้นที่ยืนในสังคม ขอไม่อยู่ก็ได้ สิ่งที่ทำไป เลวร้ายมากเกินไปหรือ สภาพจิตใจย่ำแย่ ทุกอย่างโหมเข้ามาจนไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว กระแสสังคมที่เข้ามานั้น ราวกับไม่อยากให้มีพื้นที่ยืนในสังคม ขอไม่อยู่ก็ได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo