ปลดล็อกกระท่อม เร่งชง ครม.พิจารณาต้นเดือนสิงหาคมนี้ “สมศักดิ์” ย้ำไม่ใช่ยาเสพติด คนทั่วไปใช้เคี้ยวเท่านั้น ห้ามนำมาทำ 3 คูณ 100 หรือ 4 คูณ 100
นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช ในฐานะรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ตามที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ในฐานะ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เร่งดำเนินการ ปลดล็อกกระท่อม ออกจากบัญชียาเสพติด
ล่าสุด ความคืบหน้าของนโยบายการปรับ พืชกระท่อม ออกจากบัญชียาเสพติด อยู่ในขั้นตอน การเปิดรับแสดงความคิดเห็น ผ่านเว็บไซต์ https://www.oncb.go.th/Pages/main.aspx ของ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) กระทรวงยุติธรรม เป็นระยะเวลา 15 วัน
ทั้งนี้ คาดว่า ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2563 จะสามารถนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณา ของคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อไป
“จากการหารือ ร่วมกับนายสมศักดิ์ ถึงแนวทางการดำเนินนโยบายดังกล่าว ของรัฐบาล ถือเป็นการทำให้เกิดประโยชน์ ต่อเศรษฐกิจชุมชน และวิถีชีวิตของชุมชน โดย พืชกระท่อม มีหลักฐานการใช้เป็นสมุนไพรในครัวเรือน มาตั้งแต่อดีต โดยใช้ในการบำรุงกำลัง เป็นยาขยัน แก้ปวดท้อง แก้ปวดเมื่อย” นายสัณหพจน์ กล่าว
ดังนั้น พืชกระท่อม จึงไม่ใช่ยาเสพติด ขณะเดียวกัน ในด้านการส่งเสริม ให้ปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจนั้น เนื่องจาก พืชกระท่อม มีสาร 2 ชนิด ที่เรียกว่า “ไมทราไจนีน” ซึ่งมีสรรพคุณ ช่วยระงับความเจ็บปวด ได้ดีกว่ามอร์ฟีน และเซเว่นไฮดรอกซี เป็นยาชูกำลัง
ปัจจุบัน พบว่า ประเทศมหาอำนาจ ผลิตมอร์ฟีนขายสร้างรายได้ปีละ เกือบ 5 แสนล้านบาท ดังนั้นประเทศไทย จึงควรเปิดให้มหาวิทยาลัย ที่มีความรู้ และสนใจศึกษาวิจัย พืชกระท่อม เพื่อเตรียมความพร้อม รวมทั้งการกำหนดพื้นที่ปลูก และสำรวจกลไกการตลาด เพื่อไม่ให้เกิดภาวะล้นตลาด เหมือนพืชเศรษฐกิจอื่น ๆ เช่น ยางพารา และ ปาล์มน้ำมัน
สำหรับความกังวล เรื่องการควบคุมนั้น นายสมศักดิ์ ย้ำว่า จะต้องป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชน ยุ่งเกี่ยวกับ พืชกระท่อม และป้องกันการใช้พืชกระท่อม เป็นส่วนผสมของสารเสพติด หรือเครื่องดื่มชูกำลัง เช่น 4 คูณ 100 โดยในส่วนของการใช้ทั่วไป สามารถใช้เพื่อเคี้ยว เป็นยาบำรุงกำลัง ได้เพียงอย่างเดียว ในขณะที่หากจะนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ จะต้องมีการขออนุญาต สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก่อน
นายสมศักดิ์ ได้สรุปการใช้ พืชกระท่อม ว่า บุคคลทั่วไป สามารถนำมาเคี้ยวได้อย่างเดียว ห้ามนำมาทำ 3 คูณ 100 หรือ 4 คูณ 100 ดังนั้น ตนในฐานะรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ และ ส.ส.จ.นครศรีฯ เห็นว่า เรื่องดังกล่าว เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องเกษตรกร ที่จะส่งเสริมให้มีการปลูกเป็น พืชเศรษฐกิจ สามารถทำให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้
พร้อมกันนี้ จะนำเรื่องดังกล่าวไปหารือ และสร้างความเข้าใจกับประชาชน และเยาวชน โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งส่วนใหญ่ มีการใช้พืชกระท่อม เป็นยาสมุนไพรมาตั้งแต่อดีต
ที่ผ่านมา ในเดือนมีนาคม 2563 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติหลักการ ร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ …) พ.ศ. ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยเป็นการให้ยกเลิก พืชกระท่อม ออกจากการเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 และ ยกเลิกบทกำหนดโทษ ในความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อม
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการควบคุมพืชกระท่อมให้มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับสภาพของสังคมไทย รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาการใช้ประโยชน์จากพืชกระท่อมในเชิงพาณิชย์ อุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ครม.จ่อปลดล็อก ‘กระท่อม’ พ้นยาเสพติดให้โทษ!
- สภาฯ ไฟเขียวตั้งกมธ.ศึกษา ‘กัญชา-กัญชง-กระท่อม’
- ดันร่างกม. ปรับสถานะ ‘กระท่อม’ เข้าครม. 10 มี.ค.นี้