General

ศาลสั่งคุก ‘บรรยิน’ 8 ปีคดีโอนหุ้นชูวงษ์-อดีตพริตตี้โดนด้วย!!

ศาลอาญาพิพากษาจำคุก “บรรยิน” 8 ปีไม่รอลงอาญา ด้าน “อดีตพริตตี้-อดีตโบรกเกอร์” เจอคุกคนละ 4 ปี

ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ อ่านคำพิพากษาคดีปลอมเอกสารโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือ เสี่ยจืด อายุ 50 ปี นักธุรกิจรับเหมาหมื่นล้าน (คดีหมายเลขดำ อ.305/2561, อ.3352, อ.3354/2559 รวมพิจารณาทั้งหมดเป็นคดีเดียวกัน) ที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 เป็นโจทก์ และ นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง อายุ 55 ปี ภรรยาของนายชูวงษ์ หรือ เสี่ยจืด ในฐานะผู้จัดการมรดกสามีและบุตรรวม 4 รายที่เป็นผู้เสียหาย เป็นโจทก์ร่วมยื่นฟ้อง น.ส.กัญฐณา หรือ น้ำตาล ศิวาธนพล อายุ 30 ปี อดีตพริตตี้ที่รู้จักกับนายชูวงษ์, น.ส.อุรชา หรือ ป้อนข้าว วชิรกุลฑล ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อ น.ส.วัชรียา หรือ น้ำมนต์ วัชรประยงค์วุฒิ อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่การตลาด หรือโบรกเกอร์บริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง และคนสนิทของ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 57 ปี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ น.ส.ศรีธรา พรหมา อายุ 56 ปี แม่ของอดีตโบรกเกอร์ เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 265, 268, ลักทรัพย์ 334, 335 วรรคหนึ่ง (5) (7) กับวรรคสาม, รับของโจร 357

โดยอัยการ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 ส่วนครอบครัวนายชูวงษ์ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ซึ่งพฤติการณ์คดีกล่าวหาร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิและโอนหุ้น มูลค่ากว่า 300 ล้านบาทของนายชูวงษ์ไปโดยมิชอบ

ศาลอาญา

ก่อนที่นายชูวงษ์จะเสียชีวิตจากเหตุรถยนต์หรู ยี่ห้อเลกซัส สีดำ ทะเบียน ภฉ1889 กทม. ของนายชูวงษ์ ซึ่งพ.ต.ท.บรรยิน เป็นผู้ขับ เกิดเสียหลักไปชนกับต้นไม้ที่ริม ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ระหว่างซอย 48 กับซอย 50 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. ช่วงปี 2558

ซึ่งพฤติการณ์คดีได้กล่าวหา น.ส.กัญฐณา จำเลยที่ 1 ที่รู้จักกับนายชูวงษ์ กับ พ.ต.ท.บรรยิน จำเลยที่ 3 ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ไปดำเนินการถอนและโอนหลักทรัพย์ของนายชูวงษ์ ต่อบริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค ประเทศไทย ขณะที่ น.ส.อุรชา จำเลยที่ 2 โบรกเกอร์ซึ่งเป็นคนสนิทของ พ.ต.ท.บรรยิน นั้น ร่วมกับ พ.ต.ท.บรรยิน ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ไปดำเนินการถอนและโอนหลักทรัพย์ของนายชูวงษ์ ต่อบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน)

สำหรับคดีที่ครอบครัวนายชูวงษ์ยื่นฟ้องนั้น กล่าวหาว่ามีการจัดทำใบขอถอน/โอนหลักทรัพย์ด้วยปากกาพิเศษที่สามารถลบได้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระงับสิทธิระหว่างนายชูวงษ์ กับบริษัทหลักทรัพย์ (AEC จก.) วันที่ 5 มิถุนายน 2558 จำเลยร่วมกันนำเอกสารนั้น-สำเนาบัตรประชาชนนายชูวงษ์ ไปยื่นโอนหุ้นมูลค่า 38,050,000 บาทกับบริษัทหลักทรัพย์ไปโดยทุจริต

และกรณีกล่าวหาจัดทำใบขอถอน/โอนหลักทรัพย์ด้วยปากกาพิเศษที่สามารถลบได้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระงับสิทธิระหว่างนายชูวงษ์ กับบริษัทหลักทรัพย์ (RHB) วันที่ 22 มิถุนายน 2558 จำเลยร่วมกันนำเอกสารนั้น-สำเนาบัตรประชาชนนายชูวงษ์ ไปยื่นโอนหุ้นมูลค่า 228 ล้านกับบริษัทหลักทรัพย์ไปโดยทุจริต ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ และได้ประกันตัวไปด้วยหลักทรัพย์ 3-5 ล้านบาท ระหว่างพิจารณา

ส่วน พ.ต.ท.บรรยิน จำเลยที่ 3 เพิ่งถูกเพิกถอนการประกันตัวเมื่อวันที่ 25 ก.พ.2563 เนื่องจากปรากฏเหตุว่า พ.ต.ท.บรรยิน กำลังถูกสอบสวนคดีมีคนร้ายลักพาตัวพี่ชายของผู้พิพากษาอาวุโสเจ้าของสำนวนคดีโอนหุ้นนายชูวงษ์ เพื่อบังคับกดดันผลคดีให้ยกฟ้อง กระทั่งพี่ชายผู้พิพากษานั้นเสียชีวิต

โดยวันนี้ อดีตพริตตี้ จำเลยที่ 1, อดีตโบรกเกอร์ และมารดา จำเลยที่ 2,4 ที่ได้ประกันตัวมาศาลตามนัด ด้าน พ.ต.ท.บรรยิน จำเลยที่ 3 ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ วันนี้ศาลไม่ได้เบิกตัวมาศาล โดยได้อ่านคำพิพากษาให้ฟังผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ด้วยระบบปฏิบัติการออนไลน์แอพพลิเคชั่น Cisco Jabber (ซิสโก้ แจ๊บเบอร์) จากศาลไปยังเรือนจำ ฝ่ายครอบครัวของนายชูวงษ์ มีนางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ พี่สาวของนายชูวงษ์มาศาลร่วมฟังคำพิพากษาด้วย

ขณะที่ ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์-จำเลย นำสืบแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้อง จึงพิพากษาให้จำคุก น.ส.กัญฐณา หรือน้ำตาล อดีตพริตตี้ จำเลยที่ 1 มีกำหนด 4 ปี, น.ส.อุรชา จำเลยที่ 2 มีกำหนด 4 ปี ส่วน พ.ต.ท.บรรยิน จำเลยที่ 3 ให้จำคุก 2 กระทงๆ กระทงละ 4 ปีรวมจำคุก 8 ปี โดยให้ยกฟ้องในส่วน น.ส.ศรีธรา จำเลยที่ 4

Avatar photo