การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วทั่วโลกจากเทคโนโลยีที่พัฒนาก้าวหน้าไม่หยุดยั้ง แน่นอนว่าย่อมเป็นเสมือนดาบสองคมที่มีทั้งประโยชน์และโทษ อยู่ที่ผู้ใช้งานว่าจะเลือกนำไปใช้ในทางใด
หนึ่งในโลกด้านมืดของอินเทอร์เน็ต ที่กำลังเป็นภัยร้ายกัดกร่อนบ่อนทำลายเยาวชนไทย กลุ่มคนรุ่นใหม่ ก็คือ การพนันออนไลน์ ที่มาในหลากหลายรูปแบบ หลากหลายช่องทาง โดยเฉพาะทางช่องทางโซเชียลมีเดียยอดฮิต อย่าง เฟซบุ๊ก ไลน์ ยูทูบ ทวิตเตอร์ ไปจนถึงเว็บไซต์ ที่เปิดกันเป็นล่ำเป็นสัน
สะท้อนได้จากการเก็บข้อมูลของไวซ์ไซท์ จากการพูดคุยบนโลกโซเชียล (Social Listening) ที่ปัจจุบันมีประชากรไทยกว่า 57 ล้านคนเข้าถึงอินเทอร์เน็ต โดย 51 ล้านคนใช้งานโซเชียล มีเดีย โดยเฉลี่ยจะใช้เวลาออนไลน์ กว่า 9 ชั่วโมงต่อวัน ขณะที่ 3 ชั่วโมงอยู่กับ Social Media ซึ่งพบข้อมูลน่าตกใจไม่น้อยว่า ในปี 2562 ที่ผ่านมา มีถึงมากกว่า 1.2 แสนข้อความที่พูดถึงการพนัน โดยเฉพาะการพนันออนไลน์
นอกจากนี้ยังพบว่า เว็บไซต์พนันออนไลน์ ก็มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลอย่างเป็นทางการจาก American Gaming Association (AGA) ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ให้บริการกาสิโนเชิงพาณิชย์ในอเมริกา พบว่าในปี 2561 มีจำนวนเว็บไซต์พนันออนไลน์ที่กิจการคึกคักอยู่ถึง 2,800 เว็บไซต์ รวมทั้งคาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดพนันออนไลน์จะสูงถึงกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2568เติบโตเฉลี่ย 11.5% ต่อปี
จากผลสำรวจความคิดเห็นและพฤติกรรมของเยาวชนทั่วประเทศ 4,677 คน เกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหาการพนันผ่านช่องทางออนไลน์ ในปี 2562 พบว่า 42.38% ของเด็กและเยาวชนเข้าสู่วงจรการพนัน โดยมีปัจจัยชักจูงมาจาก สื่อโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะเฟซบุ๊ก และเว็บไซต์ดูหนังฟังเพลง เป็นสื่อที่มีอิทธิพลสูงสุด ส่วนการพนันออนไลน์ยอดนิยม 3 อันดับแรก ได้แก่ ไพ่ประเภทต่างๆ, เกม/สลอตแมชชีน และเล่นพนันฟุตบอล/พนันกีฬา ตามลำดับ
สอดคล้องกับผลสำรวจสถานการณ์การเล่นพนันในสังคมไทย ปี 2562 ของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า คนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 3.19 ล้านคน เล่นการพนันผ่านช่องทางออนไลน์ มีเงินหมุนเวียนสะพัดถึง 20,152 ล้านบาท โดยช่องทางหลักที่ใช้เล่นพนันออนไลน์ คือ โทรศัพท์มือถือ และมีเยาวชนตกอยู่ในภาวะติดหนี้พนัน คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 335 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณ 3,512 บาทต่อคน
ในส่วนของการจับและดำเนินคดีเกี่ยวกับการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน
เห็นได้จากข้อมูลจากเว็บไซต์ของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรณีคำสั่งอายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราวสำหรับการกระทำความผิดเกี่ยวกับการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนันโดยเป็นการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พบว่า ในปี 2561 ตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค. ถึง 25 ธ.ค. 2561 มี 67 คำสั่ง (คดี) ยึดทรัพย์สินทั้งหมด 249 รายการมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท จากทั้งหมด 239 คดี
การเติบโตของธุรกิจพนันออนไลน์ นอกจากเป็นเพราะการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและการใช้สมาร์ทโฟนที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องจนทำให้เข้าถึงได้ง่ายเพียงปลายนิ้วแล้ว ยังเป็นผลมาจากกาเล่ห์กลของเว็บพนันออนไลน์ ที่มีความหลากหลายเร้าใจ เปิดให้ทดลองเล่นฟรี เอาเงินรางวัลมาล่อ และที่สำคัญที่เกิดขึ้นมากในขณะนี้คือ การให้เพื่อนชักชวนเพื่อน โดยล่อลวงว่า เล่นแล้วได้เงินจริง ทั้งนี้เป็นการรีวิวแล้วรับเงินจากการรีวิวเท่านั้น ส่งผลให้มีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาในวงจรอุบาทว์นี้เพิ่มมากขึ้นทุกวัน
ทั้งนี้มีข้อมูลจาก นายธาม เชื้อสถาปนศิริ นักวิชาการด้านการสื่อสารมวลชน ที่เปิดเผยว่า ตั้งแต่ไทยก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 พบว่า การพนันเริ่มปรับเข้ากับชีวิตของคนมากขึ้น โดยใช้กลยุทธ์การหลอกล่อ หว่านล้อมให้คนเข้าเว็บไซต์ จากการฟังเพลงดูหนังออนไลน์จากเว็บเถื่อน จากนั้นจึงล่อให้คนเข้าไปเล่นต่อ หรือเข้ากลุ่ม นอกจากนี้ยังใช้สื่อบุคคล เน็ตไอดอล เพื่อน ที่มีอิทธิพลตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ ซึ่งการรับจ้างโฆษณาถือว่ามีความผิดตามกฎหมายมาตรา12 พ.ร.บ.พนัน เป็นต้น
จากปัญหาดังกล่าวที่เชื่อได้ว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน ทำให้ล่าสุด เครือข่ายองค์กรเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ 6 องค์กรที่ขับเคลื่อนเรื่องการพนันออนไลน์ เข้าพบผู้บริหารกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อนำเสนอปัญหา และหารือแนวทางที่จะนำไปสู่การสร้างความร่วมมือของทุกภาคส่วนให้ช่วยกันลดปัญหา และร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนให้ปลอดภัยจากการพนัน โดยเฉพาะการพนันออนไลน์
สำหรับ 6 องค์กร ดังกล่าว ประกอบด้วย สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย สมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ สมาคมไอเซคพัฒนาผู้นำนักศึกษาระหว่างประเทศ (AIESEC) เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน และเครือข่ายเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา
ขณะที่ นายเนวินธุ์ ช่อชัยทิพฐ์ ผู้ช่วยรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า เครือข่ายองค์กรด้านเด็กและเยาวชนทั้ง 6 องค์กร มีข้อเสนอ 4 ข้อ เพื่อสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามปัญหาพนันออนไลน์ ได้แก่ 1.ขอให้กระทรวงประกาศนโยบายป้องกันและแก้ไขปัญหาการพนันออนไลน์ในเด็กและเยาวชนเป็นวาระเร่งด่วน 2.ขอให้กระทรวงและกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงสาธารณสุข พัฒนากลไกและมาตรการในการแก้ปัญหาการพนันออนไลน์อย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม
3.ขอให้แก้ไขปรับปรุงกฎหมายใน พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยระบุลักษณะความผิดอันเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ ให้ครอบคลุมชัดเจน และกำหนดเพิ่มบทลงโทษสำหรับการกระทำความผิดดังกล่าว และ 4.ขอให้พัฒนาช่องทางร้องเรียน และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมแจ้งเบาะแส และข้อมูลข่าวสาร หากพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการพนันออนไลน์
ปัจจุบันการพนันออนไลน์ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4 ทวิ และผู้ที่ทำการโฆษณาหรือชักชวนผู้อื่นเล่นพนัน มีความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน ตามมาตรา 12 (2) และมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 (แก้ไข พ.ศ. 2560) มาตรา 14 (4) และมาตรา 20 (3)
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือ การให้เยาวชนและคนไทยทุกคน ตระหนักอย่างแท้จริงของภัยจากเว็บการพนันออนไลน์ เพราะการรู้เท่าทันจะเป็นการสร้างปราการป้องกัน ซึ่งย่อมดีกว่าวัวหายแล้วมาล้อมคอกทีหลังแน่นอน