General

เจ้ากระทรวงเกษตรฯ ลั่น ‘ปฏิรูป’ ภาคการเกษตรไทยครบวงจร

รมว.เกษตรฯ ดีเดย์ต้นปี 2562 เดินหน้าปฏิรูปภาคการเกษตรไทย ชูนโยบาย การตลาดนำการผลิต ใช้เทคโนโลยีมาส่งเสริมการผลิต แปรรูปสินค้า หนุนเกษตรอินทรีย์ พร้อมเร่งขยายช่องทางจำหน่ายออนไลน์

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ในปี 2563 จะเป็นปีแห่งการปฏิรูปภาคการเกษตรของไทยอย่างครบวงจร มีนโยบายหลักคือ การตลาดนำการผลิต โดยผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาดเพื่อแก้ปัญหาผลผลิตล้นตลาดและราคาตกต่ำ

the man 1501209 960 720

นอกจากนี้จะเน้นการหาตลาดใหม่ๆ และช่องทางการจำหน่ายที่สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะการขายผ่านช่องทางออนไลน์ โดยล่าสุดได้จับมือกับลาซาด้านำสินค้าเกษตรไปขายผ่านเว็บไซต์ลาซาด้า และประสานกับบริษัทไปรษณีย์ไทย บริษัทขนส่งเอกชน และบริษัทการบินไทยเพื่อให้ขนส่งถึงผู้บริโภคได้รวดเร็วและรักษาคุณภาพของสินค้าตลอดการขนส่งซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2563 ทันที

ทั้งนี้ ได้วางพื้นฐานสำคัญของการปฏิรูปภาคการเกษตร ด้วยการรวบรวมข้อมูลและการให้บริการข้อมูลแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเกษตรกร โดยร่วมมือกับ 10 องค์กรจัดทำฐานข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ บิ๊กดาต้า ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรในระบบอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมทั้งเตรียมจัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีทางการเกษตรทั้ง 77 จังหวัด เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงข้อมูลได้สะดวก

ขณะเดียวกัน จะเดินหน้าสนับสนุนเกษตรกรให้เกิดการรวมกลุมเป็นสหกรณ์ เกษตรแปลงใหญ่ วิสาหกิจชุมชน รวมไปถึงการส่งเสริมคนรุ่นใหม่ที่สนใจทำการเกษตรเพื่อพัฒนาเป็น ยังก์ สมาร์ท ฟาร์มเมอร์ สืบสานการทำเกษตรกรรมจากพ่อแม่และนำองค์ความรู้ที่ทันสมัย โดยเฉพาะการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่ามาพัฒนาให้มีรายได้และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

เฉลิมชัย ศรีอ่อน
เฉลิมชัย ศรีอ่อน

พร้อมกันนี้ จะมุ่งพัฒนาการผลิต ตั้งแต่คุณภาพของเมล็ดพันธุ์และต้นพันธุ์ที่ให้คุณภาพดี ผลผลิตต่อไร่สูง ตลอดจนทนทานต่อโรคและแมลง นำเทคโนโลยีและเครื่องจักรกลการเกษตรใหม่ๆ มาใช้อย่างจริงจังได้แก่ การทำเกษตรให้เหมาะสมกับพื้นที่ (Agri-Map) ซึ่งนำไปสู่การกำหนดพื้นที่ทำการเกษตร (โซนนิ่ง) การลดต้นทุนการผลิต รวมถึงการใช้ปุ๋ยให้เหมาะสมกับความต้องการของพืชและสภาพดินซึ่งดำเนินเป็นโครงการปุ๋ยสั่งตัดที่สามารถลดต้นทุนได้ถึง 30%

สำหรับการป้องกันกำจัดวัชพืชและศัตรูพืช ได้วางนโยบายลด ละ เลิกใช้สารเคมี โดยเร่งวิจัยและพัฒนาสารชีวภัณฑ์เพื่อทดแทน เป็นไปตามเป้าหมายให้ไทยเป็นครัวของโลกซึ่งต้องผลิตอาหารปลอดภัยตามมาตรฐาน GAP และเกษตรอินทรีย์ โดยจะนำศาสตร์พระราชาและทฤษฎีใหม่มาเป็นพื้นฐานในการขับเคลื่อน

ในส่วนของน้ำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการทำเกษตร กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมชลประทานได้วางนโยบายการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ เพิ่มแหล่งกักเก็บน้ำทั้งขนาดใหญ่ กลาง และเล็กเพื่อป้องกันภาวะน้ำหลากและเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง สำหรับความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทำให้ภัยแล้งเกิดถี่ขึ้นจะแก้ไขโดยทำโครงการระยะยาวเพื่อเติมน้ำในแหล่งเก็บกักน้ำสำคัญและการผันน้ำข้ามลุ่มน้ำโดยเฉพาะลุ่มเจ้าพระยาซึ่งมีการใช้น้ำเพิ่มขึ้น มีโครงการเพิ่มปริมาณการผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองมาสู่ลุ่มเจ้าพระยาจากปีละ 800 ล้านลบ.ม. เป็น 2,000 ล้านลบ.ม.

เรือประมง 1

ในปี 2563 นังวางเป้าหมายเร่งแก้ไขปัญหาภาคการประมงต่อเนื่องจากปีนี้ เช่น กรมประมงจัดระเบียบเรือประมงพื้นบ้านให้จดทะเบียนอย่างถูกต้อง ซึ่งดำเนินการแล้วกว่า 50,000 ลำ ส่วนเรือประมงพาณิชย์ซึ่งขอทำประมงได้ตลอดทั้งปีนั้น ในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ เรืออวนลากสามารถทำประมงเพิ่มได้ 30 วัน ส่วนเรืออื่นๆ ในปี 2563 สามารถทำประมงได้ทั้งปี โดยกรมประมงได้พิจารณาถึงความสมดุลของทรัพยากรสัตว์น้ำแล้ว

Avatar photo