รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยความคืบหน้าการทำงานในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าเป็นการวางรากฐานการทำงานให้มีความมั่นคง เพื่อเดินหน้าในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ได้สรุปผลการทำงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่ละด้านในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา หลังจากเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่า ได้ดำเนินการเตรียมความพร้อม และขจัดอุปสรรคที่เป็นปัญหาต่อการเดินหน้าแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม
ในช่วงระยะเวลากว่า 3 ได้ดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ยึดหลักการทำงานตามกฎหมาย และน้อมนำแนวทางตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มาเป็นกรอบการทำงาน และวางรากฐานให้มีความมั่นคง
หลังจากนี้จะเป็นการเดินหน้าที่ทำให้การทำงานของกระทวงมีประสิทธิภาพมากขึ้น เริ่มตั้งแต่บุคลากร ที่จะได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพผ่านวิทยาลัยการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่จะเปิดการเรียนการสอนในวันที่ 1 มกราคม 2563 ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม เติมเต็มความรู้ความเข้าใจของบุคลากรในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และทราบถึงทิศทางการทำงาน และความเติบโตในสายงานด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงการลงพื้นที่จริง เพื่อทำความเข้าใจลักษณะของชุมชนที่มีความแตกต่างกันในร่วมกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
จากนั้นจะเป็นการเติมเต็มด้านทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะการปลูกป่าทดแทนในโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ ต่างๆ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาถือว่ามีความก้าวหน้า จากเดิมที่เคยตั้งเป้าในการเพิ่มพื้นที่ป่า 10 ล้านต้น แต่ปัจจุบันมีการเพิ่มพื้นที่ป่าได้มากกว่า 12 ล้านต้น ทำให้หลังจากนี้กระทรวงได้เปลี่ยนเป้าหมายจะเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ 100 ล้านต้น ควบคู่ไปกับการหาที่ดินทำกินให้กับประชาชน ผ่านโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช. ) เพื่อป้องกันการบุกรุกผืนป่า และการสร้างพื้นที่ป่าชุมชน เพื่อให้คนกับป่าสามารถอยู่ร่วมกัน และเกิดการหวงแหนในการอนุรักษ์ พร้อมกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดูแลสิ่งแวดล้อม อาทิการใช้อากาศยานไร้คนขับในการช่วยเจ้าหน้าที่ในการดูแลผืนป่า
นอกจากนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ยังให้ความสำคัญในการบริหารจัดการน้ำ กับการให้ความรู้กับประชาชน และสนับสนุนงบประมาณในการเพิ่มแหล่งน้ำในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะน้ำใต้ดิน หรือน้ำบาดาล ที่กระทรวงจะมีการจัดทำแผนที่น้ำบาดาล เพื่อให้ประชาชนรับทราบว่า พื้นที่ใดมีความเหมาะสมในการขุดเจาะแหล่งน้ำใต้ดิน เพื่อนำมาใช้ในการอุปโภคและบริโภค พร้อมส่งเสริมให้กรมทรัพยากรน้ำ และกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้บูรณาการการทำงานร่วมกันในการหาแหล่งน้ำต้นทุน ทั้งแหล่งน้ำตามธรรมชาติ และน้ำใต้ดินที่ประชาชนสามารถทำได้ในพื้นที่ของตนเอง ด้วยการทำบ่อวง เติมน้ำใต้ดินในช่วหน้าฝน ก่อนนำน้ำเหล่านี้มาใช้ในช่วงหน้าแล้ง โดยเฉพาะในพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ที่กระทรวงจะมีบทบาทสำคัญในการทำงานร่วมกับกระทรวงอื่นๆ ในการหาน้ำต้นทุนให้เพียงพอต่อเกษตรกรรม
ขณะเดียวกันการใส่ใจสิ่งแวดล้อม ทั้งการลดใช้พลาสติกที่กระทรวงได้เริ่มนับถอยหลังที่จะประกาศการเลิกใช้ถุงพลาสติกในวันที่ 1 มกราคม 2563 ซึ่งขณะนี้ถือว่าทุกหน่วยงาน และประชาชนเริ่มตื่นตัวในการดูแล และใส่ใจสิ่งแวดล้อมแล้ว
การเตรียมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก ยังเป็นปัญหาสำคัญที่กระทรวงได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ เพื่อให้การแก้ไขปัญหากับนานาประเทศมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมพร้อมรับมือหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ และปัญหาค่าฝุ่นละอองในอากาศตามหัวเมืองใหญ่ที่พบว่า เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งกระทรวงจะเน้นวิธีการป้องกันมากกว่าป้องปราบปราม โดยเฉพาะการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งส่งผลต่อการทำให้ก๊าซเรือนกระจก ซึ่งขณะนี้หน่วยงานต่างๆ ได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่
