วันนี้ (13 ส.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เข้าร่วมการประชุมกับนายแพทย์มารุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ และคณะผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง ในประเด็นเกี่ยวกับการผลิตและใช้กัญชาทางการแพทย์
นายอนุทิน กล่าวว่า จะต้องนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์เป็นลำดับแรก หากประสบความสำเร็จ จะเข้าสู่การนำกัญชามาผลิตเป็นสินค้าต่างๆ เรื่องกัญชาต้องเดินหน้าเป็นขั้น เป็นตอน และไม่กระทบกับสุขภาพของคนไทย รวมไปถึงสังคมไทย ส่วนที่มีการอ้างกฎบัติองค์การอนามัยโลก (ฮู) ว่า กัญชาเป็นยาเสพติด ผิดกฎหมาย ขอย้ำว่า ถ้านำมาใช้ทางการแพทย์ สามารถทำได้ หลายชาติ ไม่แคร์เรื่องนี้กันแล้ว
ในส่วนของภาคเกษตรกรนั้น เกษตรกรไทยมีความสามารถ และภาครัฐต้องการวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงจากเกษตรกรไทย แทนที่การนำของกลางมาใช้ แต่ที่สุดแล้ว การปลูก ก็ต้องควบคุมโดยรัฐ การนำมาใช้ก็ต้องผ่านการรับรองโดยรัฐเช่นกัน
สำหรับนโยบายปลูกกัญชาบ้านละ 6 ต้น เพื่อใช้รักษาโรค ยังเป็นเป้าหมายของตน นอกจากนั้น เรื่องการนิรโทษกรรมผู้ป่วยที่ครอบครองกัญชา ซึ่งจะหมดลงในวันที่ 21 สิงหาคม ตนจะไปดูแลเรื่องดังกล่าว
“การปลูกกัญชา รวมไปถึงกิจกรรมทั้งหลาย ต้องอยู่ภายใต้การดูแลโดยภาครัฐเท่านั้น ทั้งการตรวจสอบคุณภาพ การรับซื้อ การสกัด การจำหน่ายจ่ายแจก และต้องเริ่มจากเรื่องการแพทย์ก่อน ทั้งนี้ อะไรที่เป็นประโยชน์ เราไม่ขัดขวาง”
ขณะที่นายประพัฒน์ยืนยันว่า พร้อมผลักดันนโยบายการใช้กัญชาทางการแพทย์ ส่วนใครที่มาอ้างกฎหมายสากล อยากให้ไปตรวจสอบที่สหรัฐ แคนาดา และออสเตรเลีย ซึ่งล้วนแต่ให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจกันแล้ว
นอกจากนี้ อยากให้ภาครัฐสนับสนุนให้เกษตรกรสามารถปลูกกัญชาได้สะดวกขึ้น ทุกวันนี้ ตนร่วมมือกับกรมการแพทย์แผนไทย ปลูกนำร่องไว้ 5 ไร่ ลงทุนเองหลายบาท เพราะอยากให้สังคมรู้ว่าคนไทยปลูกได้ และปลูกเก่งไม่แพ้ต่างชาติเลย ซึ่งเกษตรกรไทยท่านอื่น ไม่ได้มีแนวคิดแบบตน ถ้าขาดการช่วยเหลือ รับรองไม่มีใครกล้าลงทุน
นายประพัฒน์ กล่าวต่อว่า ต้องการให้มีการลงทะเบียนสายพันธุ์กัญชา เพื่อให้รู้ว่าตอนนี้ คนไทยปลูกกัญชาพันธุ์ไหนบ้าง และอยากให้ผ่อนปรนเรื่องวิจัยกัญชา เนื่องจากปัจจุบันมีเพียงรัฐมนตรี ที่เป็นผู้อนุญาต สวนทางกับจำนวนความต้องการวิจัยศึกษาที่มีมากมาย จนเกิดสภาวะคอขวด นอกจากนั้น อยากให้ดูแลเรื่องการนิรโทษกรรมกัญชาแก่ผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้ในการรักษาโรค
ขณะที่นายแพทย์มารุต กล่าวตอบข้อสงสัยเรื่องการปลูกกัญชาของเกษตรกรว่า ปัจจุบันนี้ เกษตรกรสามารถูกได้ ในเงื่อนไขที่ต้องร่วมมือกับทางสถาบันทาบการแพทย์ และสถาบันการศึกษา โดยผลิตนั้น ต้องเป็นไปเพื่อรักษาผู้ป่วยเป็นสำคัญ