General

‘บิ๊กแป๊ะ’ ลั่น 90% ของเหตุบึ้มในไทย เป็นระเบิดทางการเมือง!!

“ผบ.ตร.” ลั่นจากประสบการณ์ 80 – 90% ของเหตุบึ้มในประเทศ เป็นระเบิดทางการเมือง ชี้ระเบิดครั้งนี้วางแผนอย่างเป็นขั้นตอน

ตำรวจแถลง1

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นำทีมสืบสวนสอบสวนคดีระเบิดหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แถลงความคืบหน้าภาพรวมของคดี โดยกล่าวถึงเหตุผลความจำเป็นที่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของคดีได้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากเกรงจะกระทบรูปคดีและส่งผลให้คนร้ายไหวตัวหลบหนี พร้อมขอให้ประชาชนและสื่อมวลชนเข้าใจถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งหลังเกิดเหตุไม่ถึง 10 ชั่วโมงสามารถจับผู้ต้องหาได้ทันที 2 คน คือ นายลูไอ แซแง อายุ 22 ปี ทำหน้าที่วางระเบิด และนายวิลดัน มาหะ อายุ 29 ปี ทำหน้าที่ดูต้นทางและคุ้มกัน โดยจับได้ที่จุดตรวจปฐมพร จังหวัดชุมพร เบื้องต้น ถูกแจ้งข้อหา อั้งยี่ซ่องโจร มีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครอง และพยายามฆ่า

ทั้งนี้ จากการสอบสวนทั้งสองคน เบื้องต้นให้การที่เป็นประโยชน์ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ โดยระบุได้เพียงว่า อยู่ในระดับปฏิบัติการและมีการเตรียมการมาเป็นอย่างดี จากการเตรียมชุดมาเปลี่ยนถึง 5 ชุดหลังก่อเหตุ ขณะที่แผนประทุษกรรม และความเชื่อมโยงของระเบิดแต่ละจุด มองว่า ไม่ประสงค์ถึงแก่ชีวิต อีกทั้งจากการตรวจสอบ พบเคยมีประวัติเคยร่วมก่อเหตุโจมตีฐานนาวิกโยธิน ที่จังหวัดนราวาส เมื่อปี 2556 ส่วนประเด็นการจัดหาและจุดประกอบระเบิด มีความเป็นไปได้ทั้งการนำมาจากพื้นที่ภาคใต้ หรือมาจัดหาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยยังไม่สารภาพถึงผลตอบแทนที่ได้รับ

“จากประสบการณ์ของตน เหตุระเบิดที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย 80 – 90% เป็นระเบิดทางการเมือง แต่จากเหตุการณ์ครั้งนี้ พบว่า มีการวางแผนอย่างเป็นขั้นตอน จึงยากที่จะทราบถึงจุดประสงค์ที่แท้จริง และกลุ่มใดอยู่เบื้องหลัง แต่จากประสบการณ์ส่วนตัว การก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่เคยมีกลุ่มไหนออกมายอมรับ หรือประกาศว่า เป็นผู้ลงมือ ส่วนเหตุการณ์ครั้งนี้ตนก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครอยู่เบื้องหลัง และต้องการอะไร ถ้าเป็นไปได้ตนอยากให้เงิน 2 ล้านบาทด้วยซ้ำไป” พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าว

ด้านพล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วยผบ.ตร.) ได้ไล่เรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงวันที่ 1 – 2 สิงหาคม 2562 ตั้งแต่การพบระเบิดด้านหน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2 ลูก ช่วงบ่ายวันที่ 1 สิงหาคม จนช่วงเช้าวันที่ 2 สิงหาคม เกิดเหตุระเบิดที่ทางเข้า-ออกศูนย์ราชการอาคาร B 2 ครั้ง, หน้ากองบัญชาการกองทัพไทย 1 ครั้ง, หน้าอาคารมหานคร 2 ครั้ง, หน้าสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 1 ครั้ง ซึ่งจากพยานหลักฐานที่ตรวจเก็บได้เป็นระเบิดแสวงเครื่อง มีลักษณะการประกอบระเบิดลักษณะเดียวกัน

ส่วนเหตุเพลิงไหม้ที่ร้านค้าย่านประตูน้ำ 4 จุด และร้านค้าย่านสยาม ปทุมวัน อีกจำนวนหนึ่ง เป็นระเบิดแสวงเครื่องเพลิง ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนเหตุทั้งหมดมีความเชื่อมโยงกัน พร้อมเชื่อว่า ขบวนการที่ก่อเหตุนี้ สามารถแบ่งเป็น 4 กลุ่มหลัก คือ

1.กลุ่มมาสเตอร์มายด์ ซึ่งเป็นคนกำหนดยุทธศาสตร์
2. กลุ่มกลุ่มคนวางแผน สั่งการ กำหนดขั้นตอน วิธีการปฏิบัติ การสรรหาคน
3.กลุ่มคนช่วยเหลือสนับสนุน ทั้งก่อน-ขณะ-หลังเกิดเหตุ
4.กลุ่มผู้ลงมือปฏิบัติ

ภาพจากกองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

Avatar photo