General

พรรคการเมืองประสานเสียง ‘กฎหมายกัญชา’ ต้องไม่ผูกขาดให้นายทุน

พรรคการเมืองประสานเสียง “กฎหมายกัญชา” ต้องไม่ผูกขาดให้นายทุน “ปชป.” ดันตั้งศูนย์วิจัยสร้างการยอมรับในสังคม

S 83255309

นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยระหว่างงานสัมนา “Greenovation Cannabis Conference” ช่วง “Political Panel : กัญชาพัฒนาประเทศจุดยืนของนักการเมืองต่ออุตสาหกรรมกัญชา” ในวันนี้ (3 มิ..) ว่า กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ซึ่งจะเป็นโอกาสในเชิงการรักษาพยาบาลและเพิ่มรายได้ต่อหัวให้เกษตรกรของไทย โดยสังคมไทยและพรรคการเมืองก็สนับสนุนนโยบายการใช้กัญชาในเชิงการแพทย์

แต่เหรียญก็มี 2 ด้านและสังคมไทยก็มีความคิดเห็นที่หลากหลาย จึงต้องดูผลดีผลเสียให้ชัดเจน โดยเรื่องนี้เป็นประเด็นใหญ่ของประเทศ ตนจึงอยากเสนอให้กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันตั้งศูนย์วิจัยด้านกัญชาเพื่อสร้างมาตรฐานและความยั่งยืน รวมถึงขับเคลื่อนเรื่องกัญชาภายใต้ความเชื่อมั่นของสังคม

อย่างไรก็ตาม การออกกฎหมายเรื่องกัญชาก็ต้องระมัดระวัง เพราะการออกกฎหมายมากเกินไปมักจะฆ่านวัตกรรมใหม่ๆ และเกิดการคอร์รัปชั่นสูงมากขึ้นเช่น กฎหมายบล็อกเชน ซึ่งเมื่อบังคับใช้จริงกลับทำให้เทคโนโลยีบล็อกเชนในประเทศไทยหดตัว

นอกจากนี้ประเด็นสำคัญของกฎหมายกัญชา คือการดูแลให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรายเล็กแข่งขันกับรายใหญ่ได้ ด้านกระทรวงพาณิชย์ก็ต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาในเรื่องนี้เพื่อสนับสนุนสิทธิบัตรที่เป็นของคนไทย

7E4BA185 2CEC 47C4 B9CE 9339CF6A9BBD

นายอภิวัฒน์ จ่าตา ผู้อำนวยการสำนักข่าว Ganja TV และตัวแทนจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เปิดเผยว่า ยาตำรับไทยตั้งแต่ครั้งอดีตมีส่วนผสมของกัญชาจนกระทั่งกัญชาถูกขึ้นทะเบียนเป็นยาเสพติด ส่งผลให้ตำรับยาดังกล่าวเป็นที่รู้จักลดลง

สำหรับปัจจุบันสังคมต้องการกัญชาใน 2 แง่คือในแง่ยารักษาโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งสามารถทำได้เองที่บ้านและยารักษาความจน เพราะราคาพืชเศรษฐกิจตกต่ำมาก ตรงข้ามกับกัญชาซึ่งซื้อขายกันในตลาดมืดกิโลกรัมละ 1 หมื่นบาท ส่วนในตลาดโลกราคาสูงสุดอยู่ที่ 7 – 8 หมื่นบาทต่อกิโลกรัม

อย่างไรก็ตาม ถ้าประเทศไทยจะทำให้กัญชาถูกกฎหมายก็ต้องไม่ทำให้เกิดการผูกขาดเฉพาะกลุ่มทุน ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้ประชาชนด้วย โดยทุกวันนี้ประชาชนตื่นตัวมาก แต่สื่อยังไม่เปิดกว้างในเรื่องนี้ ซึ่งเชื่อว่าถ้าตั้งรัฐบาลใหม่ได้ก็จะมีการเผยแพร่องค์ความรู้ด้านนี้มากขึ้น

นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(..) พรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยว่า ส่วนตัวเห็นว่าควรควบคุมมาตรฐานการปลูกกัญชาเพราะไม่เช่นนั้นจะนำไปใช้ในเชิงการแพทย์ไม่ได้ แต่การปลูกและใช้กัญชาไม่ควรถูกผูกขาดหรือผลประโยชน์จากเรื่องนี้ตกอยู่แค่บางคน เพราะเมื่อไม่มีการแข่งขันก็จะทำให้มีราคาแพง

นอกจากนี้ส่วนตัวสนับสนุนให้เปิดเสรีกัญชาในเชิงสันทนาการและการท่องเที่ยว โดยทดลองนำร่องในบางกลุ่มหรือบางพื้นที่ก่อนว่าจะส่งผลกระทบอย่างไร เกิดข้อเสียอย่างที่มีความกังวลกันหรือไม่ แล้วสุดท้ายกลับมาฟังเสียงประชาชนว่าเรื่องนี้เป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน

Avatar photo