กรมชลฯ สั่งทุกพื้นที่เตรียมพร้อมเครื่องจักร กำลังคน 24 ชม. วางแผนรับมือฝนระลอกใหม่ เผยอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ ยังรองรับน้ำได้อีก 28,171 ล้าน ลบ.ม.
นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ตลอดจนสำนักงานชลประทานที่ 1 -17 และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม


ทั้งนี้ เพื่อติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสภาพอากาศ สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ แม่น้ำสายหลักต่าง ๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด


จากการรายงานสถานการณ์น้ำล่าสุด (29 ก.ค.68) พบว่า อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 48,332 ล้าน ลบ.ม. (63% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) สามารถรับน้ำได้อีก 28,171 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 15,940 ล้าน ลบ.ม. (64% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) สามารถรับน้ำได้อีก 8,931 ล้าน ลบ.ม.

จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 30 กรกฎาคม-3 สิงหาคม 2568 ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง จากนั้นจะมีปริมาณฝนเพิ่มสูงขึ้นอีกระลอก

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้วางแผนใช้ ทุ่งบางระกำ เป็นพื้นที่หน่วงน้ำธรรมชาติ คาดว่าจะพร้อมใช้งานเต็มที่ภายหลังการเก็บเกี่ยวในช่วงกลางเดือนสิงหาคม โดยขอความร่วมมือเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วไม่ทำการเพาะปลูกซ้ำ เนื่องจากอาจส่งผลให้ผลผลิตเสียหาย

พร้อมกันนี้ ได้กำชับไปยังโครงการชลประทานทุกแห่งให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด นำข้อมูลมาวิเคราะห์วางแผนการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งพิจารณาปรับการระบายน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมและไม่ส่งผลกระทบต่อท้ายเขื่อน เพื่อรองรับปริมาณฝนที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม

ที่สำคัญให้ปฏิบัติตาม 9 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2568 อย่างเคร่งครัด รวมทั้งตรวจสอบอาคารชลศาสตร์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ดำเนินการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเตรียมพร้อมเครื่องจักรเครื่องมือและเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชม. ให้สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด ตามข้อสั่งการของ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- น้ำล้นตลิ่งหลายพื้นที่ กรมชลประทาน เร่งระบาย-พร้อมช่วยเหลือประชาชน
- กรมชลฯ อัปเดตสถานการณ์อุทกภัยลุ่มน้ำยมตอนบน แพร่น้ำลด สุโขทัยเพิ่ม
- กรมชลฯ ผนึก หน่วยงานพื้นที่ลุ่มน้ำยม–น่าน เดินหน้าควบคุมจราจรน้ำ ลดผลกระทบประชาชน
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์ : https://www.www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg