“ดร.อนันต์” เตือนภัย ข้าวสารปนเปื้อนสารหนู เผยผลวิจัยทดลองปลูกข้าวในจีน พบการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ-ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ส่งผลให้ปริมาณสารหนูในเมล็ดข้าวเพิ่มสูงขึ้น
ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana เตือนภัยข้าวปนเปื้อนสารหนู โดยระบุว่า
หลาย ๆ ท่านอาจจะไม่ทราบว่า ข้าวที่เราบริโภคกันอยู่ทุกวัน อาจมีการปนเปื้อนของสารหนู ซึ่งเป็นธาตุตามธรรมชาติที่พบได้ในดินและน้ำ หากร่างกายได้รับสารหนูอนินทรีย์ในปริมาณมากและเป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงตามมาได้ เช่น โรคมะเร็งบางชนิด โรคหัวใจและหลอดเลือด และปัญหาพัฒนาการในเด็ก
ล่าสุด งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร The Lancet Planetary Health ได้ชี้ให้เห็นถึงความน่ากังวลว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกที่เรากำลังเผชิญอยู่ ทั้งอุณหภูมิที่สูงขึ้นและปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในบรรยากาศที่เพิ่มมากขึ้นจากการกระทำของมนุษย์ อาจยิ่งส่งผลให้ปริมาณสารหนูในข้าวที่เราบริโภคกันอยู่เพิ่มสูงขึ้น และจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้คนในวงกว้างอย่างไร
ทีมวิจัยได้ทำการทดลองในแปลงนาจริงในประเทศจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกข้าวที่สำคัญและมีลักษณะคล้ายคลึงกับพื้นที่ปลูกข้าวอื่นๆ ในเอเชีย พวกเขาใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า FACE (Free-Air CO2 Enrichment) และ T-FACE ซึ่งสามารถควบคุมระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และอุณหภูมิในแปลงนาเปิด ให้สูงกว่าสภาวะปกติได้ โดยจำลองสภาวะอากาศที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต (CO2 เพิ่มขึ้น 200 ppm และ/หรือ อุณหภูมิสูงขึ้น 2 องศาเซลเซียส)
การทดลองนี้ดำเนินติดต่อกันหลายปี (ตั้งแต่ปี 2014-2023 โดยมีการควบคุมอุณหภูมิในปี 2020, 2021, และ 2023) และใช้ข้าวหลากหลายสายพันธุ์ที่เป็นตัวแทนของข้าวที่ปลูกและบริโภคกันทั่วไปในเอเชีย จากนั้นจึงเก็บตัวอย่างข้าวมาวิเคราะห์ปริมาณสารหนูชนิดต่างๆ รวมถึงศึกษาการเปลี่ยนแปลงทางเคมีและจุลินทรีย์ในดินด้วย
ผลการทดลองพบว่า การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเพียงอย่างเดียว หรือการเพิ่มขึ้นของทั้งอุณหภูมิและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์พร้อมกัน ส่งผลให้ปริมาณสารหนูโดยรวมและสารหนูอนินทรีย์ (ซึ่งเป็นชนิดที่เป็นพิษ) ในเมล็ดข้าวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ที่น่าสนใจคือ ผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของทั้งสองปัจจัยพร้อมกันนั้น รุนแรงกว่าผลกระทบจากปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งเพียงอย่างเดียว แสดงให้เห็นถึง ผลแบบเสริมฤทธิ์กัน (synergistic effect) ในทางตรงกันข้าม การเพิ่มขึ้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียงอย่างเดียว ไม่ได้ส่งผลให้ปริมาณสารหนูในข้าวเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังพบว่าสภาวะที่อุณหภูมิและ CO2 สูงขึ้นนั้น สัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงของจุลินทรีย์ในดินบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงรูปของสารหนู และทำให้ดินมีสภาวะที่เอื้อต่อการละลายและการดูดซึมสารหนูเข้าสู่ต้นข้าวมากขึ้น
เมื่อนำผลการทดลองนี้ไปสร้างแบบจำลอง เพื่อคาดการณ์ความเสี่ยงต่อสุขภาพ พบว่าประชากรใน 7 ประเทศหลักที่บริโภคข้าวในเอเชีย (บังกลาเทศ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม *** ไม่มีข้อมูลของประเทศไทย) อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง (เช่น มะเร็งปอดและกระเพาะปัสสาวะ) และโรคไม่ติดต่ออื่น ๆ (เช่น โรคหัวใจขาดเลือดและเบาหวาน) เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญภายในปี 2593 หากบริโภคข้าวที่ปลูกภายใต้สภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป
งานวิจัยนี้ไม่เพียงแต่เป็นการยืนยันความเชื่อมโยงระหว่างการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับความปลอดภัยของอาหารหลักของโลก แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณเตือนถึงผลกระทบด้านสาธารณสุขที่อาจเกิดขึ้นในวงกว้าง
การค้นพบนี้ตอกย้ำถึงความจำเป็นในการหาแนวทางและนวัตกรรม เพื่อลดการปนเปื้อนและการสัมผัสสารหนูจากข้าว แนวทางที่เป็นไปได้ครอบคลุมตั้งแต่การปรับปรุงพันธุ์ข้าวให้ทนทานและดูดซึมสารหนูน้อยลง การพัฒนาระบบการจัดการน้ำในนาข้าวเพื่อลดสภาวะที่เอื้อต่อการละลายของสารหนู ไปจนถึงการปรับปรุงบำรุงดิน และการทบทวนหรือกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยด้านสารหนูในอาหารให้เข้มงวดขึ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- กรมอนามัย เฝ้าระวังคุณภาพน้ำแม่น้ำกก-น้ำประปาเชียงใหม่ หวั่นปนเปื้อนสารหนู-ตะกั่ว
- ‘นฤมล’ แจ้งข่าวดี จีนรับรองห้อง Lab ตรวจ BY2
- ดร.อนันต์ เปิดสูตรวัคซีน mRNA ‘ฝีดาษลิง’ รุ่นใหม่ ป้องกัน clade 1 ได้ 100%
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์ : https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg