เตือน “มะเร็งหลังโพรงจมูก” อีกหนึ่งภัยเงียบที่ต้องระวัง แนะเลี่ยงการสูบบุหรี่ สารก่อมะเร็ง เลือกบริโภคอาหาร และหมั่นสังเกตตัวเอง เพื่อรักษาทันเวลา
หลายคนไม่รู้ว่า บริเวณโพรงจมูกเป็นเป็นมะเร็งได้เช่นกัน ข้อมูลจากโรงพยาบาลรามาธิบดี ระบุว่า มะเร็งในโพรงจมูกเกิดบริเวณหลังโพรงจมูก ซึ่งมีลักษณะเป็นโพรงกว้าง อยู่ด้านหลังของจมูก เป็นทางผ่านของอากาศไปยังผนังคอ จะมีสารบางอย่างไหลผ่านเข้าไปได้ง่าย เช่น ควันบุหรี่ ควันพิษต่างๆ หรือสารที่เกิดจากการเผาไหม้ และเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองบริเวณดังกล่าวได้ง่าย
อาการเริ่มแรกคล้ายเป็นไข้หวัด มักมีอาการไอ เจ็บคอ และน้ำมูกไหล ทำให้หลายคนไม่ทันระวัง และไม่ไปตรวจรักษาตั้งแต่เริ่มต้น จนโรคเข้าสู่ระยะลุกลาม
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เล่าว่า โรคมะเร็งหลังโพรงจมูกเป็นที่พบมากในแถบเอเชียบางประเทศ เช่น จีน ไต้หวัน ฮ่องกง รวมถึง ไทย
สำหรับประเทศไทยพบมะเร็งหลังโพรงจมูกในเพศชายมากกว่าเพศหญิงราว 2 เท่า และมักพบในผู้ป่วยที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ข้อมูลจากทะเบียนมะเร็ง สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ปี 2557 พบผู้ป่วยเพศชาย 1,087 คน เพศหญิง 462 คน คิดเป็นอุบัติการณ์การเกิดโรค 2.62 และ 1.0 คนต่อประชากรแสนคน ในเพศชาย และเพศหญิงตามลำดับ
มะเร็งโพรงจมูกเกิดจากการที่เซลล์ต่างๆ ในโพรงจมูก และโพรงอากาศข้างจมูก เกิดความผิดปกติ หรือมีการเปลี่ยนแปลง แต่ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัดว่า สาเหตุที่แท้จริงของโรคคืออะไร ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง อาทิเช่น พันธุกรรม การติดเชื้อไวรัส การรับประทานอาหารที่มีสารไนโตรซามีน ที่มาจากเนื้อสัตว์ที่ผ่านการถนอมอาหารโดยการรมควัน หรือ การหมักดอง ทั้งแบบต่างชาติ หรือแบบไทย รวมถึงอาหารจำพวกปิ้งย่าง และมาจากการสัมผัสสารก่อมะเร็ง จากการประกอบอาชีพ และสิ่งแวดล้อม อาทิ ฝุ่นไม้ บุหรี่ เป็นต้น
นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า มะเร็งโพรงจมูก อาจไม่แสดงอาหารในระยะแรกๆ เนื่องจากโพรงจมูกมีลักษณะค่อนข้างกว้าง โดยอาการอาจจะปรากฏออกมา เมื่อมะเร็งเจริญเติบโตไปรอบๆ หรือมีขนาดใหญ่จนปิดกั้นโพรงจมูกไปมากแล้ว
อาการทั่วไปที่พบบ่อย คือ คัดจมูก น้ำมูกไหลข้างเดียว ที่ผู้ป่วยไม่ได้เป็นหวัด หรือภูมิแพ้ และยังมีอาการอื่นๆ ที่มีความแตกต่างกันในคนไข้แต่ละราย ขึ้นอยู่กับว่ามะเร็งนั้น มีจุดเริ่มต้นมาจากบริเวณไหน เช่น มีเลือดกำเดาไหล หูอื้อ ชาและปวดบวมบริเวณใบหน้า ปวดหัว และมีก้อนนูนอยู่บริเวณต้นคอใต้ติ่งหู เป็นต้น
หากผู้ป่วยมีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว ในด้านวินิจฉัยนั้น ใช้เวลาวินิจฉัยค่อนข้างนาน และอาจต้องวินิจฉัยหลายๆ ครั้ง เพื่อหาระยะ และระดับความรุนแรงของโรคอย่างถูกต้อง เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
วิธีการรักษาหลัก 3 วิธี
- ผ่าตัดในกรณีที่เนื้องอกอยู่ในระยะแรกๆ ยังไม่มีการกระจายตัวมากนัก
- การฉายแสง
- ให้ยาเคมี
การป้องกันมะเร็งโพรงจมูกเบื้องต้น ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ เช่น การสูบบุหรี่ หรือหลีกเลี่ยงการรับควันบุหรี่ การสวมเครื่องป้องกันขณะปฏิบัติงานในโรงงานที่มีสารก่อมะเร็ง การเลือกบริโภคอาหาร และสิ่งสำคัญควรสังเกตตัวเองอยู่เสมอ เพื่อรักษาให้ทันเวลา เนื่องจากการรักษาโรคในระยะแรกจะได้ผลดีกว่าในระยะลุกลาม