คุณยายวัย 64 ปี เชื่อ “มาร์ค” รักออนไลน์ หลอกโอนเงินสูญ 4 แสน เผยลูกเตือนแล้ว แต่ไม่ฟัง
ผู้สื่อข่าว รายงานว่า วันนี้ (19 ก.พ.) “ป้ากุ้ง” วัย 64 ปี เดินทางมาร้องเรียนกับ “สายไหมต้องรอด” เล่าว่า ช่วงเดือนตุลาคม 2567 มีชายคนหนึ่ง ทักมาในเฟซบุ๊ก แนะนำตัวว่าชื่อ “มาร์ค” อายุ 58 ปี เป็นชาวฟิลิปปินส์ ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พูดคุยกันไปมาจนสนิท และเริ่มพัฒนาเป็นความสัมพันธ์แบบคนรัก
ต่อมาเดือนพฤศจิกายน 2567 ‘มาร์ค’ บอกว่าจะส่งเงินมาให้ 25,000 ดอลลาร์ พร้อมเครื่องประดับเพชร สร้อยคอ แหวน นาฬิกา แต่เนื่องจากไม่มีบัญชีธนาคาร จึงต้องส่งพัสดุผ่านไปรษณีย์ไทย เมื่อของมาถึงประเทศไทย ‘ป้ากุ้ง’ ได้รับโทรศัพท์จากคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ จะต้องเสียค่าภาษีพัสดุจำนวน 3,000 บาท แต่พอจ่ายไปแล้ว กลับถูกเรียกเก็บเพิ่มอีก 7,000 บาท ซึ่งตนไม่มีเงิน ‘มาร์ค’ จึงช่วยออกให้ 3,000 บาท และให้ป้ากุ้งจ่ายเพิ่ม 4,000 บาท
แต่เรื่องไม่จบเท่านั้น พัสดุกลับถูกอายัดต่อที่กรมศุลกากร อ้างว่าเป็นเครื่องประดับมีค่า ต้องเสียภาษีเพิ่มอีกหลายหมื่นบาท ‘ป้ากุ้ง’ จ่ายไปเรื่อยๆ รวมแล้ว 200,000 บาท โดยที่ตัวเองจ่ายไป 40,000 บาท และ “มาร์ค” ช่วยจ่าย 160,000 บาท แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้ของ เพราะอ้างว่า ยังติดขั้นตอนเซ็นเอกสารจากตัวมาร์คเอง
จากนั้นช่วงเดือนพฤศจิกายน ‘มาร์ค’ อ้างว่าจะบินมาไทยเพื่อมาจัดการเรื่องพัสดุ แต่หลังจากเดินทางมาถึง กลับบอกว่าถูกตำรวจจับ และต้องการเงินไถ่ตัว ตอนแรกเรียก 2,000 บาท แต่หลังจากนั้น มีการเรียกเงินเพิ่มทุกวัน วันละ 2,000 บาท , 1,000 บาท จนล่าสุด ‘ป้ากุ้ง’ ไม่มีเงิน เลยต้องจ่ายวันละ 500 บาท ถ้าวันไหนไม่ให้ ตำรวจก็จะมีการนำตัว ‘มาร์ค’ ไปทำโทษ โดยพาไปทำสวนหรือตักน้ำ โดยตำรวจคนนั้นอ้างว่าเป็นตำรวจระดับผู้ใหญ่ และถ้าไม่จ่าย ‘มาร์ค’ อาจถูกฆ่า
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการส่งรูป ‘มาร์ค’ ถูกช็อตไฟฟ้า และเสียงร้องแสดงความเจ็บปวด เมื่อ ‘ป้ากุ้ง’ เห็นแบบนั้นก็ยิ่งเชื่อ จึงโอนเงินช่วยไปอีกกว่า 400,000 บาท
รวมแล้ว ‘ป้ากุ้ง’ สูญเงินไปกว่า 440,000 บาท โดยต้องไปยืมเงินจากครอบครัวและเพื่อนฝูง จนเป็นหนี้สิน ทุกวันนี้ไม่มีใครคบ
‘ป้ากุ้ง’ ยอมรับว่า รู้เรื่องมิจฉาชีพออนไลน์มาบ้าง แต่เธอมั่นใจว่า ‘มาร์ค’ มีตัวตนจริง เพราะเคยเห็นหน้าในวิดีโอคอล และได้ยินเสียงคุยกันโดยตรง ตอนนี้เธอหมดตัวแล้วไม่มีเงินให้ อีก แต่อยากให้ ‘สายไหมต้องรอด’ ช่วยนำตัว ‘มาร์ค’ ออกจากตำรวจไทย เพราะมาร์คบอกว่า พกเงินมาไทยหลายล้านบาท หากออกมาได้จะคืนเงินให้ทั้งหมด
แม้ ‘ป้ากุ้ง’ จะสูญเงินไปเยอะ และถูกลูกเตือนมาก่อนว่าโดนหลอก แต่เธอยังเชื่อว่ามาร์คไม่ได้โกหก และหวังว่าทาง สายไหมต้องรอด จะช่วยเธอให้ ‘มาร์ค’ เป็นอิสระ จากการถูกตำรวจจับตัวประกันครั้งนี้
ทุกวันนี้ป้ากุ้งเครียดมาก บางวันอยากจะฆ่าตัวตาย ไม่อยากมีชีวิตอยู่ เพราะไม่มีเงินไปจ่ายให้กับตำรวจ และยังไปกู้หนี้ยืมสินมาจากเพื่อนฝูงครอบครัว จนทุกวันนี้แทบจะไม่มีใครคบหรือคุยด้วยแล้ว ปัจจุบันเหลือเงินติดตัว 3 บาท
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ชี้แจงกับป้ากุ้งว่า นายมาร์คไม่มีตัวตนจริง แต่เป็นมิจฉาชีพประเภทโรแมนซ์สแกม หรือ แก๊งสแกมเมอร์ ที่ใช้วิธีทักแชตพูดคุยกับผู้สูงอายุ อ้างว่าจะส่งเงินและของมีค่าให้ ก่อนจะหลอกให้โอนเงิน ซึ่งมีเหยื่อจำนวนมากเคยตกเป็นเหยื่อกลโกงแบบนี้
นายเอกภพระบุว่า จะพาป้ากุ้งไปแจ้งความกับตำรวจ เพื่อดำเนินคดีกับแก๊งมิจฉาชีพและติดตามเงินคืน พร้อมฝากเป็นอุทาหรณ์ให้ทุกคน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ควรระมัดระวังมิจฉาชีพที่มาในรูปแบบของความรักและความห่วงใย
อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าคนที่โดนหลอกก็มักจะเชื่อจริงๆ ไม่อยากให้ไปต่อว่าคุณป้า เพราะใครเจอแบบนี้ก็มีโอกาสหลงเชื่อได้ พร้อมยืนยันว่าจะ ประสานตำรวจอายัดบัญชีมิจฉาชีพทั้งหมด และออกหมายเรียกเจ้าของบัญชี เพราะป้ากุ้งถูกหลอกให้โอนไปหลายบัญชี เชื่อว่าสามารถติดตามเงินคืนได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ประธานวิปรัฐบาล’ ปัดตั้งองครักษ์พิทักษ์ ‘ทักษิณ’ ลั่นใครพาดพิงก็รับผิดชอบเอง!
- ‘ภูมิธรรม’ เปิดทางตรวจสอบที่ดินสนามกอล์ฟเขาใหญ่ ปัดเป็นรอยร้าวรัฐบาล!
- ‘ศิริกัญญา’ จัดขุนพลกว่า 20 คน ถล่มซักฟอกรัฐบาล
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์ : https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yx