General

เจาะลึกวัคซีนอีโบลาล่าสุด 30 นาทีสู่เกราะป้องกัน

องค์การอนามัยโลก (WHO) และพันธมิตรได้จัดส่งวัคซีนอีโบลา ที่ทดลองต้านไวรัสอีโบลาสายพันธุ์ซูดานไปยังยูกันดาแล้ว เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการระบาดที่อาจเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน

วัคซีนที่มีชื่อว่า IAVI C108 หรือ rVSVΔG-SUDV-GP จำนวน 2,160 โดส ได้ถูกลำเลียงไปยังกรุงกัมปาลา เมืองหลวงของยูกันดา เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2568

วัคซีนอีโบลา

เทคโนโลยีล้ำสมัยเบื้องหลังวัคซีนอีโบลา

IAVI C108 เป็นวัคซีนที่พัฒนาโดยองค์กร International AIDS Vaccine Initiative (IAVI) โดยใช้เทคโนโลยีไวรัสเวสิคูลาร์สโตมาไตติสแบบดัดแปลงพันธุกรรม (rVSV) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเดียวกับวัคซีน ERVEBO ที่ใช้ป้องกันไวรัสอีโบลาสายพันธุ์ไซแอร์ที่ได้รับการอนุมัติแล้ว วัคซีนนี้ถูกออกแบบให้ฉีดเพียงครั้งเดียวและคาดว่าจะกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้อย่างรวดเร็ว

การทดลองทางคลินิกที่น่าจับตามอง

การทดลองทางคลินิกระยะที่ 1 ของ IAVI C108 เริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน 2566 ในสหรัฐอเมริกา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความปลอดภัยและการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของวัคซีน การทดลองนี้จะทดสอบวัคซีนในปริมาณ 3 ระดับ คือ 2 × 10^6, 2 × 10^7 และ 2 × 10^8 PFU โดยมีผู้เข้าร่วมการทดลองทั้งหมด 36 คน

ผลการทดลองในสัตว์ที่น่าตื่นเต้น

ข้อมูลจากการทดลองในสัตว์พบว่า IAVI C108 สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสอีโบลาสายพันธุ์ซูดานในลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะได้รับเชื้อหลังจากฉีดวัคซีนเพียง 30 นาที นอกจากนี้ ยังพบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อแม้ใช้ในปริมาณต่ำเพียง 2 × 10^2 PFU

vaccine

ความพยายามระดับโลกในการเตรียมพร้อม

การจัดส่งวัคซีนทดลองครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเตรียมพร้อมรับมือกับการระบาด โดย WHO ยังได้จัดสรรเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากกองทุนฉุกเฉินเพื่อเร่งการควบคุมการระบาดอีกด้วย ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนหรือการรักษาที่ได้รับการอนุมัติสำหรับไวรัสซูดาน ซึ่งเป็นโรคร้ายแรงที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 41-100% ในการระบาดที่ผ่านมา

การส่งวัคซีนทดลองนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเตรียมพร้อมรับมือกับการระบาดของไวรัสอีโบลาสายพันธุ์ซูดานที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือระดับโลกในการพัฒนาเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อต่อสู้กับโรคติดเชื้อร้ายแรง

ผู้อำนวยการบริหารของโครงการสุขภาพฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก (WHO) ดร. ไมค์ ไรอัน เดินทางเยือนประเทศยูกันดา เพื่อสนับสนุนการตอบสนองของรัฐบาลต่อการระบาดของโรคไวรัสอีโบลาสายพันธุ์ซูดาน

ในระหว่างการเยือนครั้งนี้ ดร. ไรอันได้เข้าเยี่ยมชมหน่วยแยกโรคของโรงพยาบาลมูลาโก ซึ่งมีการส่งทีมแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ที่ผ่านการฝึกอบรมมาล่วงหน้า เข้าปฏิบัติงาน
การพัฒนาหน่วยแยกโรค และการฝึกอบรมทีมแพทย์

การพัฒนาหน่วยแยกโรคแห่งนี้ รวมถึงการฝึกอบรมและการส่งทีมแพทย์เข้าปฏิบัติงาน  ได้รับการสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลก ในความร่วมมือกับธนาคารโลก การดำเนินการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไวรัสอีโบลาสายพันธุ์ซูดานในประเทศยูกันดา

การสนับสนุนจากองค์กรระหว่างประเทศเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความร่วมมือระดับโลก ในการรับมือกับวิกฤตสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของโรคติดต่อร้ายแรงเช่นไวรัสอีโบลา ซึ่งต้องการการตอบสนองที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้าง

ที่มา: ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี 

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo