“พิธา” รับกังวล คนใช้สิทธิ์เลือกตั้ง อบจ. น้อย ทำพรรคประชาชนไปไม่ถึงฝัน พ้อเวลาเจอ เขาทักทาย-ถ่ายรูป แต่ไม่รู้ไปเลือกตั้งหรือไม่
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ระหว่างช่วยหาเสียงนายก อบจ.ตราด ถึงการต่อสู้สนามเลือกตั้ง อบจ. ว่า พรรคประชาชนนำโดยหัวหน้าพรรคและเลขาพรรค ทำงานเต็มที่ในเรื่องของการแข่งขัน ตนไม่กังวลสักเท่าไหร่ แต่กังวลว่าสิ่งที่พวกตนกำลังแข่งอยู่ สุดท้ายกลายเป็นว่าคนไม่มาใช้สิทธิ์ใช้เสียง
“เวลาเจอกันเขาก็ยังทักทาย พูดคุย ถ่ายรูป มาฟังปราศรัยในบางพื้นที่ อย่างภาคใต้ก็เยอะเหมือนตอนเลือกตั้งปี 2566 แต่มั่นใจหรือไม่ว่า เขาจะออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียง เพราะเขายังไม่เข้าใจว่าเลือก อบจ. มีประโยชน์อย่างไร แต่ผมก็พยายามอธิบายว่า อบจ. คือครู คลัง ช่าง หมอ” นายพิธา กล่าว
นายพิธา กล่าวว่า ตอนนี้กำลังรณรงค์โดยใช้ปากกา ให้ประชาชนรู้ว่า ปากกาในมือมีมูลค่าเท่าไหร่ แต่ละ อบจ. ไม่เหมือนกัน บางจังหวัดมูลค่ารวมหมื่นล้าน จึงอยากทำให้ประชาชนเห็นว่า มูลค่ามากขนาดนี้อยู่ที่ปากกาที่ใช้ในวันออกสิทธิ์ออกเสียง ดังนั้น เรื่องคู่แข่งก็ว่ากันเรื่องนโยบายก็ดี เรื่องขึ้นดีเบตก็ดี ก็ไม่ได้กังวล แต่การมาใช้สิทธิ์ใช้เสียงจะไม่เป็นไปตามเป้า ตนยังอยากจะเห็นว่าเลือกตั้งท้องถิ่นมีคนสนใจและมาใช้สิทธิ์เยอะ อย่างน้อยอยากได้ 70% ซึ่งระดับสากลควรจะเป็นแบบนั้น แต่ยอมรับว่าจะให้ 70% เป็นไปได้ยาก เพราะเลือกตั้งล่วงหน้าไม่ได้ เลือกตั้งข้ามเขตไม่ได้ เลือกตั้งข้ามประเทศไม่ได้ และยังจัดเลือกตั้งหรือวันเสาร์ หนึ่งเดือนหลังปีใหม่
เมื่อถามว่าจังหวัดตราดมั่นใจมากแค่ไหน เพราะคู่แข่งเป็นคนในพื้นที่มานาน เป็นอดีตนายก อบจ.ที่อยู่มาหลายสมัย นายพิธา กล่าวว่า มั่นใจว่าคนตราดพร้อมที่จะเปลี่ยน คนตราดอยู่กับภาวะผู้นำของนายก อบจ. คนเดิมมา 25 ปี และตนก็ศึกษาแคมเปญของคู่แข่ง เขาบอกว่ามีประสบการณ์ แต่ตัวเลขที่ออกมามันไม่ได้บอกว่ามีอะไรดีขึ้น ถึงตั้งใจลงพื้นที่มาเพื่อบอกคนตราด ว่าเรื่องการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจจังหวัดตราด ย้อนหลังเติบโต 1.6% แต่ประเทศไทยเติบโต 3.5% ดังนั้น จังหวัดตราดเติบโตต่ำกว่าประเทศไทย ทั้งที่มีทั้งผลไม้ มีทั้งประมง และท่องเที่ยว รวมถึงการค้าชายแดน
สิ่งที่น่ากลัวคือเด็กเกิดใหม่ที่มีน้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐานมากที่สุดอยู่ที่จังหวัดตราด แสดงว่าต้องมีคนที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง คนเบื่อ จำเจ ซึ่งตนไปในหลายพื้นที่ คนก็อาจจะคิดว่าไปเลือกก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับชีวิตพวกเขามาก เสียเวลาทำมาหากิน ไม่ไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงดีกว่า จึงต้องมากระตุ้นให้เห็นว่าในอดีตอาจจะเป็นแบบนั้น
นายพิธา กล่าวว่า เกมมันก็อยู่ที่ใจประชาชน ประชาชนคิดง่ายๆ ว่าเขาจะปิดร้านก๋วยเตี๋ยวครึ่งวัน เพื่อไปเลือกตั้งดีหรือไม่ ถ้าทำแล้วเขารู้สึกว่าเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้ชีวิตเขาดีขึ้นได้ เขาก็ไป แต่ถ้าเกิดว่าไม่ดีขึ้นก็ไม่ไป แค่นั้น เราก็เข้าใจกัน เพราะทุกคนก็มีภารกิจส่วนตัว จึงเป็นการตอกย้ำข้อกังวลของตน ว่าทุกวันนี้เราสู้กับความหวัง ต้องมาชี้ให้เห็นว่า วันนี้ต่างจาก 25 ปีที่แล้วอย่างไร ต้องโน้มน้าวให้ได้ภายในระยะเวลาที่จำกัด ตนอาจจะต้องเดินทางกลับอเมริกาในเร็วๆ นี้ด้วย ไม่รู้ว่าจะอยู่ช่วยโค้งสุดท้ายได้หรือไม่
เมื่อถามว่า มั่นใจว่าในพื้นที่ภาคตะวันออกจะสำเร็จมากน้อยแค่ไหน นายพิธา ระบุว่า ตนมั่นใจว่ายังมีสิทธิ์ที่จะทำได้ เพราะตอนเลือกตั้งระดับชาติก็มีคนปรามาสว่ามือไม่ถึง ยังไม่สามารถทำได้ แต่ทุกเกม ประชาชนเป็นคนตัดสิน
“แต่หากเป็นการเมืองที่รู้จักมักจี่กันมานาน อุปถัมภ์กันมานาน ดูแลอย่างโน้นอย่างนี้ ดูแลเรื่องโรงพยาบาล พาลูกเข้าโรงเรียนให้ โดยรวมสังคมไทย ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ทำให้คนอีกแบบหนึ่งอาจจะใช้สิทธิ์ ทำให้ฝั่งเราไม่ถึงฝั่งฝันได้” นายพิธา กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คปท.บุกทำเนียบฯ จี้ปม ‘เทวดาชั้น14-บ่อนกาสิโน-พนันออนไลน์’
- เปิด 4 ช่องโหว่ใหญ่ๆ เจตนาซุก ‘กาสิโน’ ไว้ใต้ ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’
- ‘ดร.สุริยะใส’ สะท้อนผลกระทบ 6 สังเกตก่อนเปิด ‘กาสิโนคอมเพล็กซ์’
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์ : https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yx